เรียกได้ว่าเป็นอีกคนที่หลายคนคิดถึงไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับ “ตอง ภัครมัย” นักร้องนักแสดงชื่อดังยุค 90 ที่ยังคงสาวสวยสะพรั่งจนหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ากาลเวลาไม่สามารถทำอะไรเธอได้ หลังจากหายหน้าหายตาไปช่วงหนึ่ง
ล่าสุดในรายการ แฉ ตอง ภัครมัย ได้ออกมาเปิดใจถึงสาเหตุอาการป่วยที่เกิดขึ้นกับตัวเธอ โดยตองเผยว่า “มีช่วงหนึ่งป่วยก่อนที่จะมีคอนเสิร์ต ตองรับละครซึ่งจริงๆ แล้วไม่ค่อยได้รับหรอก แต่พอรับแล้วจะเป็นคนเป๊ะเรื่องเวลามาก นัดเวลานี้ต้องมาเวลานี้ แล้วมันทำให้ตองเครียด เพราะกลัวจะไปไม่ทันเวลา สมมุตินัด 6 โมงเช้า ตองจะไม่นอนเลย เพราะกลัวไม่ตื่น แล้วเป็นอย่างนี้ทุกวัน เข้าห้องน้ำก็ไม่เข้า ตองเข้าโรงพยาบาลเพราะไม่ได้ถ่าย 10 วัน ต้องนอนโรงพยาบาล เกิดจากความเครียด หมอต้องทำทุกอย่างเพื่อให้มันออกมา มีอยู่ช่วงหนึ่งคือรับละครเยอะขึ้นนิดนึง เพราะมีความฝันส่วนตัวตองอยากแก่แบบมีคุณภาพ อยากแก่แล้วมีความสุข ไม่ต้องไปลำบากใคร อยากดูแลตัวเองโดยการคิดว่าอยากไปอยู่บ้านพักคนชราตอนแก่ ตอนป่วยท้องเป็นเหมือนคนท้องเลย ตอนไปหาคุณหมอ เสื้อยืดตึงมากแล้วต้องไปหาหมอตลอด อาทิตย์หนึ่ง 2 วัน ตอนนั้นคิดในใจว่า ไม่เอาแล้วไม่อยากรักษาแล้ว จะเป็นอะไรก็เป็น จริงๆ คิดแบบนี้เลยจริงๆ จนวันหนึ่งมีคนมาสะกิดใจนิดหนึ่งว่า จะปล่อยแบบนี้เหรอ จะเป็นแบบนี้เหรอ ถ้าเกิดอยากตายก็ต้องสวยก่อนไหม ก็เลยลุกขึ้นมาออกกำลังกาย ด้วยงานเข้ามาด้วย ฉันต้องดูแลตัวเอง กลับมาดูแลตัวเอง เป็นคนดูแลผิวหน้าตัวเองมาตลอดอยู่แล้ว ช่วงที่ร่างกายป่วย เชื่อไหมว่าหน้ามันแห้งหน้าพัง ผิวแห้ง ไม่ว่าจะทายี่ห้ออะไรก็ไม่ช่วย ตองไม่เคยออกจากบ้านจริงเลย แต่จริงๆ ไม่ใช่ซึมเศร้า ตองเป็นคนชอบอยู่บ้าน ช่วงโควิด เป็นคนเดียวในกลุ่มที่แฮปปี้กับการอยู่คนเดียว ไม่ใช่ซึมเศร้าแต่พออยู่คนเดียวมากๆ มันปล่อยตัว ใส่เสื้อผ้าหลวมๆ ปล่อยเนื้อปล่อยตัว ไม่ได้มีความเครียด ร่างกายปกติดี แต่พอกลับมาทำงานปั๊บนั่นแหละ ไม่เข้าห้องน้ำ ไม่นอน กลับมาเครียด และตองเป็นคนเป๊ะเรื่องเวลาพอเป๊ะปุ๊บก็ไม่กล้าเข้าห้องน้ำ”
ตองเผยต่อว่า “วันคอนเสิร์ตจริงๆ เชื่อไหมตองโทรศัพท์หา พี่ดี้ นิติพงษ์ ขอบคุณมากๆ ที่ทำให้หนูมีวันนี้ หนูไม่เคยคิดมาก่อนว่าการที่ขึ้นคอนเสิร์ต มันคือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต มันมีความสุขมากๆ ขอบคุณที่ทำให้หนูมีอาชีพนี้ ทำให้หนูได้มาเจอกับทุกคน แล้วหนูก็ขอโทษด้วยที่เด็กๆ หนูขี้เกียจ พี่ดี้ก็อบอุ่นเสมอ พูดมาคำหนึ่ง ตอนเด็กๆ ใครมันจะไปคิดได้ มันก็คิดอย่างนี้ เราร้องไห้เลย ชีวิตเราที่มีทุกวันนี้ มีกินมีใช้ มีชื่อเสียงก็มาจากแกรมมี่”
ขอบคุณภาพประกอบจาก:pakkaramai, แฉ