เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นของประชาชนภายในตลาดสดเทศบาล 1 เขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยเฉพาะพ่อค้า แม่ค้า ถึงเรื่องเงิน 10,000 บาท เฟสสอง ซึ่งส่วนใหญ่ต่างบอกว่า คนที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปี ควรจะได้เงินก่อน เพราะว่าเป็นหัวหน้าครอบครัวและมีภาระความจำเป็นต้องใช้เงินเป็นประโยชน์กว่า
โดยนายธงชัย ขาวเมืองน้อย อายุ 51 ปี พ่อค้าร้านดอกไม้ตลาดสดเทศบาล 1 กล่าวว่า ความเห็นส่วนตัวมองว่าไม่ว่าจะแจกเงินกลุ่มคนอายุเท่าไรก็ดีหมด คนจะออกมาใช้เงินเหมือนเดิม แต่อีกอย่างก็ไม่อยากให้แจกเงินแบบนี้แต่อยากให้ลดค่าน้ำมัน ค่าน้ำประปา ค่าไฟ ลดภาษี ลดค่าสาธารณูปโภค เพราะถ้าลดแบบนี้จะได้ประโยชน์ทุกคน ไม่ต้องรอเป็นรอบๆ แบบนี้ ไม่ต้องลงทะเบียนให้ยุ่งยากจะได้ประโยชน์มากกว่าและได้ทุกคน
“ถ้าแจกก็ดีแต่คนที่ไม่ได้ก็จะน้อยใจ ถ้าแจกก็แจกทุกคนไปเลยไม่ต้องมาลงทะเบียนเป็นรอบๆ แบบนี้เพราะทุกคนมีความจำเป็นเหมือนกันทุกคนสิทธิเท่ากันทุกคน” นายธงชัย กล่าว
ขณะที่ นางเพชรรัตน์ กองพลพรหม อายุ 57 ปี 65/4 ถนนเหล่านาดี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น แม่ค้าขายไส้กรอก กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่ามีทั้งคนที่นำออกมาใช้จริงๆ และเก็บไว้ก็มี แต่มองว่าคนที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปี จะเป็นหัวหน้าครอบครัวมีความจำเป็นต้องใช้เงินมากกว่า เพราะโดยส่วนตัวอายุยังไม่ถึง 60 ปี มองว่ากลุ่มคนอายุนี้มีความจำเป็นต้องซื้อของอุปโภค บริโภคมาใช้ในครอบครัวต้องใช้เงินในสิ่งที่จำเป็น เพราะมองว่าค่ากับข้าว ค่าน้ำ ค่าไฟ ภาระจะตกอยู่กับคนกลุ่มนี้เพราะความรับผิดชอบเยอะ ระยะเวลาการให้มองว่าห่างกันเกินไป ช่วงก่อนปีใหม่ถ้าให้กลุ่มคนอายุ 60 ปีขึ้นไป และช่วงตรุษจีนให้กลุ่มคนที่อายุต่ำกว่า 60 ปี จะดีมากเพราะมันจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงๆ
“ตั้งแต่ปีใหม่ถึงตรุษจีนคนจะใช้เงินเยอะ ถ้าห่างแบบนี้ 3-4 เดือน มันจะไม่กระตุ้นเศรษฐกิจ ดูจากคนที่ได้เงิน 10,000 บาท เฟสแรกคนออกมาใช้เงินจริงๆ ที่ตลาดขายดีขึ้นคนคึกคัก บางคนมองว่าจะรอแต่เงินรัฐบาลช่วยเหลือ บางคนก็หาอยู่แต่หาไม่ทัน จำเป็นต้องใช้แต่ถ้ามีเงินรัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือยังจะพอหมุนเงินได้ทันจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างหนึ่ง อิจฉาคนได้เงิน 10,000 บาทรอบแรก แต่คิดว่าเมื่อไรตัวเองจะได้บ้างจะได้ไปใช้จ่ายในครอบครัวบ้าง” นางเพชรรัตน์ กล่าว
ด้าน นายเดชชัย ตรีไทย อายุ 63 ปี 3/153 หมู่ 14 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น เจ้าของร้านส้มตำหมู่บ้านการเคหะเมืองเก่า กล่าวว่า ได้ตรวจสอบสิทธิในแอปพลิเคชันทางรัฐ ยังอยู่ที่หมายเลข 3 เหมือนเดิม และมีข้อความขึ้นในระบบให้รอวันเวลาประกาศผู้ได้รับสิทธิอีกครั้งจากทางรัฐบาล ซึ่งตนเองคิดว่าจะได้รับเงินในเฟสสองนี้ แต่เงื่อนไขนั้นตนเองไม่ทราบ แต่เท่าที่มีการพูดคุยกันกับเพื่อนๆ คิดว่าก็คงจะได้เงินอยู่ และถ้าได้เงินมาก็จะนำไปต่อยอดกับอาชีพค้าขาย โดยเฉพาะวัตถุดิบเครื่องครัวซึ่งจะสามารถช่วยได้ในระดับหนึ่งสำหรับอาชีพแบบเรา เพราะแต่ละวันก็ลงทุนเยอะ
“อยากให้ทางรัฐบาลเจาะลึกข้อมูลมากกว่านี้โดยเฉพาะกลุ่มคนที่จนจริงๆ ที่เข้าไม่ถึง บางคนไม่ได้จนจริงก็ได้รับเงินกันหมด ถ้าหากถึงวันที่ประกาศสิทธิ คนได้รับเงินเฟสสองนี้แล้วตนเองไม่มีสิทธิก็คงไม่รู้จะไปเรียกร้องอะไรจากใคร แต่เงินตัวนี้เป็นสิทธิที่เราควรจะได้เหมือนคนอื่นๆ เพราะจ่ายภาษีเช่นกัน คนอื่นได้เราก็ควรจะได้ และในส่วนของลูกหลานที่ยังไม่ได้เงิน ก็อยากให้ได้ทุกคนจะได้มีความยุติธรรม ซึ่งควรได้รับเงินเหมือนกันทั้งหมด เพราะทุกคนจ่ายภาษีเหมือนกัน ซึ่งลูกๆ หลานๆ เคยพูดคุยกันเกี่ยวกับอาชีพที่ทำเป็นพนักงานบริษัทก็อยากจะได้เงินเหมือนกันเพราะเงินเดือนแต่ละเดือนก็ใช่ว่าจะพอต่อการใช่จ่าย” นายเดชชัย กล่าว