วันที่ 21 พ.ย. 2567 ภายหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบหลักการแนวทางและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านผู้สูงอายุ เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพของผู้สูงอายุให้มีโอกาสเข้าถึงการใช้จ่ายที่จำเป็นในการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ช่วยเพิ่มการบริโภคที่จะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบและกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ

โดยจะดำเนินการเงินหมื่นเฟสต่อไปให้กับผู้ที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐสำเร็จ และต้องไม่เป็นกลุ่มเป้าหมายตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ คาดว่าจะมีกลุ่มเป้าหมายนี้ไม่เกิน 4 ล้านคน โดยจะเร่งจ่ายเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนไม่เกินเดือนมกราคม 2568

สำหรับการประกาศผลในการลงทะเบียนกลุ่มนี้ หลังจากตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งจะตั้งเป้าให้เสร็จภายในเดือน ธ.ค. 67 นี้ โดยผู้ที่มีสิทธิ ต้องผ่านการลงทะเบียนในระบบตรวจสอบสิทธิและพิสูจน์ตัวตน (KYC) และต้องไม่เป็นผู้ที่เคยได้รับเงินในเฟสแรก

สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุที่จะได้รับเงิน 10,000 บาท เฟส 2

  • ต้องเป็นผู้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” และผ่านการตรวจสอบแล้วเท่านั้น
  • ต้องไม่เป็นกลุ่มที่เคยได้รับเงิน 10,000 บาทในเฟสแรก
  • เมื่อระบบตรวจสอบคุณสมบัติผู้ลงทะเบียนผ่านแอป “ทางรัฐ” รัฐบาลจะเปิดให้ตรวจสอบรายชื่อ และหากเห็นว่าข้อมูลผิดพลาด ไม่ถูกต้อง ก็สามารถยื่นอุทธรณ์สิทธิได้
  • โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 จะใช้วงเงินที่เหลืออีก 1.4 แสนล้านบาท คาดจะเริ่มช่วงเดือน เม.ย.-มิ.ย. 68 หลังจากทดสอบระบบดิจิทัลวอลเล็ตเสร็จสมบูรณ์แล้ว

สำหรับกลุ่มนี้จะได้รับเงิน 10,000 บาท ในระบบดิจิทัลวอลเล็ตเท่านั้น จะไม่มีการแจกเป็นเงินสด ส่วนการลงทะเบียนในรอบกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ตโฟน อยู่ระหว่างพิจารณา และจะเปิดให้ลงทะเบียนได้ในเร็ว ๆ นี้

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ ผู้สูงอายุ 60 ปี ที่ลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐ ไม่สำเร็จ หรือยืนยันตัวตนไม่ผ่าน รวมถึงกลุ่มเปราะบางที่ไม่มีสมาร์ตโฟน จะมีโอกาสลงทะเบียนเก็บตกได้รับเงินสด 10,000 บาทหรือไม่นั้น

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเสริมว่า ไม่เกินช่วงตรุษจีน สามารถเติมเงินสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปี ได้ โดยเป็นผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มเปราะบางเช่นกัน ไม่ใช่ว่าผู้สูงอายุทุกคนจะได้ แต่ต้องเป็นผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐ มีการตรวจสอบสิทธิครบถ้วน และไม่ใช่กลุ่มที่ได้เงิน 10,000 บาทในเฟสแรกไปแล้ว เป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่ค่อนข้างลำบาก เพราะมีรายได้ไม่เกิน 7 หมื่น และมีเงินในบัญชีธนาคารไม่เกิน 5 แสนบาท ตามที่กำหนดไว้ จึงอยู่ในกลุ่มที่เหมาะสม โดยโอนเงินสดเหมือนเดิม เรากำหนดกรอบวงเงินไว้ 4 ล้านราย คือ 4 หมื่นล้านบาท

ส่วนกลุ่มผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ที่ไม่ใช่กลุ่ม 60 ปีนั้น ต้องการความมั่นคงปลอดภัยของระบบ อาจมีการทำ Sandbox เพื่อตรวจสอบระบบให้มั่นใจ และดูกรอบเวลาคือไตรมาสที่ 2 ของปีหน้า

สำหรับการลงทะเบียนกลุ่มไม่มีสมาร์ตโฟนนั้น รมช.คลัง ยอมรับว่ารัฐบาลจะเปิดให้คนกลุ่มนี้เข้ามาลงทะเบียนร่วมโครงการได้ในเร็วๆนี้