เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 21 พ.ย. 67 ที่ สน.บางมด นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พา น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี แม่ของ น.ส.บี อายุ 16 ปี และ น.ส.ซี อายุ 18 ปี ผู้เสียหาย เข้าพบ พ.ต.อ.สนชัย พูลผล ผกก.สน.บางมด เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี หลังถูกเพื่อนโรงเรียนเดียวกันลวงไปทำร้ายร่างกาย จับถอดเสื้อผ้าพร้อมถ่ายคลิปข่มขู่ จะเผยแพร่หากนำเรื่องดังกล่าวไปแจ้งความ

น.ส.ซี เล่าว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นนักเรียนที่เรียนอยู่ในวิทยาลัยเดียวกันกับตน โดยเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ออกอุบายชักชวนตนกับ น.ส.บี ไปกินเลี้ยงงานวันเกิดเพื่อน แต่ระหว่างที่ได้บอกกับตนว่าจะแวะเอาของบริเวณวัดโพธิ์แก้ว ย่านพระราม 2 ต่อมาเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นที่รกร้างไม่ไกลจากวัด พบว่ากลุ่มเพื่อนผู้ก่อเหตุรออยู่นับสิบคน เป็นชาย 5 คน และผู้หญิง 5 คน จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นหญิง 3 คน โดย 2 คนแรก เข้ามารุมทำร้ายตนกับ น.ส.บี โดยการเตะที่ใบหน้าแล้วใช้เท้าเหยียบ ส่วนอีกคนถือโทรศัพท์มือถือคอยถ่ายคลิป จากนั้นก็บังคับให้ตนถอดเสื้อออก แล้วพูดว่า “กูให้มึงเลือกเอาว่าจะถอดเสื้อในหรือกางเกงใน” ตนจึงเลือกถอดเสื้อในออก โดยมีกลุ่มผู้ชายยืนดูบางคน จากนั้นผู้ก่อเหตุยังเอาแกลลอนน้ำมันที่ข้างในเป็นน้ำเปล่ามาราดตัว และข่มขู่ว่าหากนำเรื่องไปแจ้งความจะเอาคลิปที่บันทึกไว้ไปเผยแพร่ในโซเชียล หลังจากถูกทำร้าย ตนไม่กล้ากลับบ้าน ต้องไปนอนที่บ้าน น.ส.บี จนแม่ น.ส.บี สงสัยบาดแผลที่เกิดขึ้นตามร่างกาย จึงได้รู้ความจริง และแจ้งให้ผู้ปกครองทราบ ก่อนจะเข้าแจ้งความตำรวจ วันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา

น.ส.ซี เล่าต่อว่า ส่วนสาเหตุเกิดจากแฟนของผู้ก่อเหตุที่เลิกรากันไปแล้ว ได้มาคุยกับตน จึงได้เกิดการหึงหวง แต่ตนยืนยันว่าไม่ได้มีการคบหากับอดีตแฟนของผู้ก่อเหตุเลย เพียงแค่คุยกันเฉยๆ ส่วนที่ น.ส.บี ถูกทำร้ายไปด้วยนั้น ก็เป็นเพราะว่า น.ส.บี สนิทกับตน และเข้ามาห้ามตอนที่ตนโดนทำร้าย

กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า ผู้เสียหายได้ติดต่อมาขอให้ช่วย ลูกสาวถูกเพื่อนโรงเรียนเดียวกัน ซึ่งเป็นเยาวชน อายุ 16-18 ปี ออกอุบาย และพาตัวน้องไปในที่รกร้าง ยึดมือถือน้อง หลังจากนั้นมีการร่วมกันรุมทำร้ายร่างกายและบังคับถอดเสื้อกับกางเกงให้ผู้ชายหลายคนยืนดู และถ่ายคลิปไว้แบล็กเมล์ บังคับให้น้องคุกเข่า แล้วเตะเสยที่หน้า กระชากจิกผม รุมกระทืบ เอาเท้าเหยียบหน้า มีการข่มขู่ไว้ว่าหากน้องบอกใครหรือแจ้งความ จะนำคลิปไปส่งต่อและลงสื่อโซเชียล

หลังเกิดเหตุ ผู้ปกครองพาน้องเข้าแจ้งความที่ สน.บางมด กลับพบว่ามีการท้าทายข่มขู่ แถมลงรูปปืน ยังบอกอีกว่าไม่กลัวคุก และนำภาพที่ถ่ายแบล็กเมล์น้องไปลงสื่อโซเชียลและแชร์ต่อ ทำให้ทั้งสภาพร่างกายและจิตใจน้องย่ำแย่จนต้องลาออกจากโรงเรียน ตอนนี้ด้านคดียังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร ตนจึงได้ประสานกับทาง พม. และ พ.ต.อ.สนชัย สน.บางมด ให้ช่วยเร่งรัดคดี นำตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษให้ได้เร็ววัน เนื่องจากผู้ก่อเหตุไม่มีความสำนึกในความผิด แถมยังอ้างว่าตัวเองเป็นตำรวจอยู่ที่ สน.บางมด จึงไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย

ด้าน พ.ต.อ.สนชัย กล่าวว่า หลังจากได้รับเรื่องแจ้งความ ทางตำรวจได้มีการสอบปากคำเบื้องต้นไปบ้างแล้ว แต่เนื่องจากคดีนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและหนึ่งในผู้เสียหายเป็นเด็ก จึงต้องมีการประสานกับอัยการ และสหวิชาชีพ ร่วมสอบปากคำ ตามขั้นตอนของกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองเด็ก ส่วนเรื่องของการตรวจร่างกายนั้น ได้มีการส่งผู้เสียหายทั้งสองไปตรวจร่างกายเรียบร้อยแล้ว

ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุตำรวจสามารถระบุตัวตนได้แล้ว ซึ่งผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชน ตำรวจจึงต้องคำนึงเรื่องสิทธิเด็กด้วย แต่อย่างไรก็ตาม จะมีการออกหมายเรียกอย่างแน่นอน ซึ่งในเบื้องต้นเข้าข่ายความผิด 3 ข้อหา คือ 1.ร่วมกันทำร้าย 2.ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ และ 3.พ.ร.บ.คอมพ์