เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 พ.ย. ที่บริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ทนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล เปิดเผยก่อนเข้าตีเยี่ยมลูกความ ว่า หลังจากเมื่อวานนี้ (20 พ.ย.) พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้เข้าไปสอบปากคำผู้ต้องหาชายในคดีเพิ่มเติมนั้น วันนี้ตนจะเข้าไปพูดคุยกับบอสพอล และผู้ต้องหาในคดีเกี่ยวกับแนวทางการต่อสู้คดี
โดยเมื่อวานนี้ตนได้นำเอกสารของดีเอสไอ ซึ่งเป็นร่างบันทึกคำให้การที่มีการนำมาให้ผู้ต้องหาเซ็นแต่ผู้ต้องหายังไม่ได้เซ็น ไปปรับปรุงใหม่ เนื่องจากมองว่าเนื้อหาในเอกสารดังกล่าวมีลักษณะชี้นำไปในทางที่จะทำให้ผู้ต้องหาเข้าข่ายความผิดแชร์ลูกโซ่ และ พ.ร.บ.ขายตรงฯ โดยตนได้ขีดเส้นให้ทีมงานของดิไอคอนกรุ๊ป ปรับปรุงเอกสารให้เสร็จภายในวันอาทิตย์นี้ เพื่อเตรียมไปยื่นให้ดีเอสไอในวันจันทร์ที่ 25 พ.ย. โดยในวันดังกล่าวจะนำพยานของบริษัทฯ ไปให้ปากคำดีเอสไอด้วย 200 ราย
ทนายวิฑูรย์ เผยต่อว่า การที่ดีเอสไอต้องมาเร่งรัดคดีให้จบภายในวันที่ 3 ธ.ค. เพราะต้องการเผื่อเวลาให้พนักงานอัยการทำงาน เพื่อส่งฟ้องให้ทันกรอบเวลาการฝากขัง 84 วัน เนื่องจากหากไม่ทัน จะต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม หากเร่งรัดโดยไม่ได้สอบปากคำพยานฝั่งตนเองทั้ง 2,000 ราย ก็มองว่าฝ่ายตนไม่ได้รับความเป็นธรรม และแม้ดีเอสไอจะไม่ได้ให้คำตอบว่าจะสามารถสอบปากคำพยานของบริษัทดิไอคอนฯ ได้กี่ราย แต่ตนเองจะพาไปวันละ 200 ราย รวมถึงจะพาผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ เช่น ด้านแชร์ลูกโซ่และธุรกิจสายตรง ไปขอให้ดีเอสไอเร่งสอบปากคำในสัปดาห์หน้าด้วย ซึ่งหากทางดีเอสไอไม่ได้สอบปากคำพยานฝ่ายตนเองครบทั้งหมด ก็มี 2 ทางที่เตรียมไว้คือ 1.พาพยานที่เหลือไปให้การในชั้นศาล และ 2.ขอให้อัยการตีสำนวนกลับมาที่ดีเอสไอ
ทนายวิฑูรย์ เผยอีกว่า ก่อนหน้านี้ทางดีเอสไอได้สอบปากคำพยานของบริษัทฯ ไปเพียง 20 กว่าปากเท่านั้น โดยคนที่ให้ปากคำไปแล้ว เป็นพยานที่เป็นตัวแทนระดับติดกับบอส รวมถึงโปรแกรมเมอร์ของบริษัทฯ ซึ่งเป็นลูกน้องของโค้ชแล็ป โดยในการให้ปากคำ พบว่ามีการถามชี้นำให้ตัวแทนตอบคำถามในสิ่งที่ต้องการ เหมือนมีคำตอบในใจแล้ว และพยายามถามชี้นำให้ตอบไปทางนั้น ซึ่งตัวแทนที่ไปให้ปากคำได้อัดเสียงไว้ทุกคน โดยให้พูดเนื้อหาเกี่ยวกับการการันตีรายได้ ชี้นำให้ตัวแทนตอบคำถามในสิ่งที่พนักงานสอบสวนต้องการ ซึ่งได้มีการบันทึกเสียงการสนทนาไว้ทั้งหมด ในลักษณะที่ไม่ให้ปกป้องบริษัท ให้ไปซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งตนจะนำไฟล์บันทึกเสียงทั้งหมดส่งให้กับอัยการเพื่อพิจารณาการสอบสวนของดีเอสไอ และส่วนนี้จะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่จะร้องขอความเป็นธรรม เพราะมองว่าเป็นการสอบสวนที่ไม่ชอบตามกฎหมาย สำหรับไฟล์เสียงนี้ ทาง The icon จะไม่เปิดเผยแต่หากทางผู้ใหญ่ในดีเอสไอต้องการ ก็ยินดีที่จะส่งให้
ด้านคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เผยว่า วันนี้ทางพนักงานสอบสวนไม่ได้เข้าไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตามกำหนดเดิมที่วางแผนไว้ว่าจะใช้เวลา 2 วัน คือวันที่ 20-21 พ.ย. เนื่องจากกระบวนการสอบปากคำเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาคดี “ดิไอคอน” ฝั่งชาย เสร็จสิ้นไปตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ เพราะผู้ต้องหาไม่มีใครให้การเพิ่มเติมแต่อย่างใด ส่วนของฝั่งบรรดาบอสหญิง ยังไม่มีประเด็นที่จะต้องเข้าไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เนื่องจากผู้ต้องหาหญิงในคดีนี้ ได้ให้การกับพนักงานสอบสวนไปตั้งแต่ช่วงแรกที่ดีเอสไอเข้าไปทำการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว.