เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 22 พ.ย. ศูนย์วิทยุนรสิงห์ สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ในสมุทรสาคร บริษัท อุตสาหกรรมตะแกรงลวดไทย จำกัด และ บริษัท ที เค ที อิเล็คทริค จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 40 หมู่ที่ 1 ต.นาดี อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร โดยทั้งสองบริษัทอยู่ในพื้นที่เดียวกัน และมีผู้ประกอบกิจการรายเดียวกัน เป็นผู้ผลิตพัดลม ยี่ห้อ “ที.เค.ที” จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.สุขุม เพาะไธสง รอง ผกก.ป.สภ.เมืองสมุทรสาคร พ.ต.ท.วิชิต ลุนผา สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ร้อยตรีประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร นายคนึง ทองเที่ยง ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองสมุทรสาคร รถน้ำดับเพลิงในจังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดใกล้เคียง 20 คัน

ที่เกิดเหตุพบแสงเพลิงกำลังลุกไหม้รุนแรง เรียกได้ว่าเป็นไฟไหม้ครั้งใหญ่ของจังหวัด เพราะเพลิงได้โหมอย่างรวดเร็วและรุนแรง เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำดับเพลิงนานกว่า 5 ชั่วโมง จึงสามารควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่ยังไม่สงบต้องฉีดน้ำเลี้ยงไว้ตลอดเวลา ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า บริษัทเสียหายเกือบทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีรถยนต์บรรทุกที่ใช้ขนส่งสินค้าได้รับความเสียหายอีก 3 คัน

นายคมสันต์ เชาว์จิรพันธ์ อายุ 70 ปี เจ้าของสถานประกอบการ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุหลังคนงานเลิกทำงานตอนประมาณเที่ยงคืนครึ่ง ขณะนั้นมี รปภ. เฝ้าอยู่ด้านหน้าโรงงานเพียงคนเดียว แล้ว รปภ. ได้ยินเสียงคล้ายกับมีอะไรบางอย่างระเบิดขึ้นบริเวณหลังตู้ยาม เมื่อไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นสายไฟช็อต และมีประกายไฟลุกลามไปตามสายไฟ ก็ได้รีบนำถังดับเพลิงมาฉีดดับหลายถังแต่เอาไม่อยู่ จึงโทรฯ แจ้งให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าช่วยเหลือ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาถึงนั้น เพลิงก็ได้โหมลุกไหม้เข้าไปภายในบริเวณโรงงานแล้ว และยังลุกลามอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นโกดังเก็บเม็ดพลาสติกและพลาสติกทำอุปกรณ์พัดลม เป็นวัสดุติดเชื้อเพลิงอย่างดี จากนั้นก็ลุกลามเสียหายดังกล่าว

นายคมสันต์ เผยอีกว่า เรียกได้ว่าเพลิงไหม้ทั้งหมดจนแทบไม่เหลืออะไรเลย แม้โรงงานแห่งนี้จะทำประกันวินาศภัยไว้ แต่มาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ก็ได้ไม่คุ้มเสียแน่นอน เพราะโรงงานแห่งนี้ตนและครอบครัวช่วยกันค่อยๆ สร้าง ค่อยๆ ต่อเติมมาทีละเล็กละน้อย จนปัจจุบันตั้งอยู่บนเนื้อที่ราวๆ 4 ไร่ เปิดกิจกรรมาตั้งแต่ปี 2544 หรือเกือบจะ 30 ปีแล้ว ไม่เคยคาดคิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับโรงงานตนแบบนี้ ส่วนมูลค่าความเสียหายยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ไม่น่าจะเกิน 100 ล้านบาท และไม่น่าจะไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท

ร้อยตรีประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ บอกว่า หลังจากที่เพลิงสงบลงแล้ว ต้องให้ทางผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรโรงงานเข้ามาประเมินความเสี่ยงก่อน เนื่องจากตัวอาคารถูกไฟไหม้อย่างรุนแรง และจากนั้นจะได้ให้เจ้าหน้าที่วิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐาน พร้อมด้วยผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุที่ชัดเจนไว้เป็นหลักฐานดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.