จากช่วงต้นเดือน พ.ย. 67 ที่ผ่านมา หลังจากที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ จะเห็นว่าราคาทองคำร่วงลงไปกว่า 1,000 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งมาจากแรงขายทองคำจากธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ, กระแสเงินทุนไหลเข้าทรัพย์สินเสี่ยงมากขึ้น, การลดปริมาณซื้อทองคำของธนาคารจีน และสถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนมีแนวโน้มเริ่มคลี่คลาย
ล่าสุด ในช่วง 6 วันที่ผ่านมา พบว่า ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัวติดต่อกันถึง 1,900 บาท
วันที่ 22 พ.ย.67 ณ เวลา 10.35 น. +450 บาท
ทองคำแท่ง รับซื้อ 44,050 บาท
ขายออก 44,150 บาท
ทองรูปพรรณ รับซื้อ 43,251.48 บาท
ขายออก 44,650 บาท
วันที่ 21 พ.ย.67 +600
ทองคำแท่ง รับซื้อ 44,050 บาท
ขายออก 44,150 บาท
ทองรูปพรรณ รับซื้อ 43,251.48 บาท
ขายออก 44,650 บาท
วันที่ 20 พ.ย.67 0
ทองคำแท่ง รับซื้อ 43,000 บาท
ขายออก 43,100 บาท
ทองรูปพรรณ รับซื้อ 42,220.60 บาท
ขายออก 43,600 บาท
วันที่ 19 พ.ย.67 +350 บาท
ทองคำแท่ง รับซื้อ 43,000 บาท
ขายออก 43,100 บาท
ทองรูปพรรณ รับซื้อ 42,220.60 บาท
ขายออก 43,600 บาท
วันที่ 18 พ.ย.67 +400 บาท
ทองคำแท่ง รับซื้อ 42,650 บาท
ขายออก 42,750 บาท
ทองรูปพรรณ รับซื้อ 41,887.08 บาท
ขายออก 43,250 บาท
วันที่ 15 พ.ย.67 +100 บาท
ทองคำแท่ง รับซื้อ 42,250 บาท
ขายออก 42,350 บาท
ทองรูปพรรณ รับซื้อ 41,492.92 บาท
ขายออก 42,850 บาท
นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ บอกว่า จากผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน พฤศจิกายน 2567 จากผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มีมุมมองว่า ราคาทองคำตลาดโลกจะอยู่ในกรอบเฉลี่ยบริเวณ 2,576–2,775 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 42,200–44,800 บาทต่อบาททองคำ และด้านค่าเงินบาท ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 33.61–35.21 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำมีแนวโน้มผันผวน และอาจมีการปรับฐานในระยะสั้น เนื่องจากตลาดกำลังรอดูทิศทางนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะเริ่มเห็นชัดเจนขึ้นในช่วงต้นปี 2568 หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการ ซึ่งการลงทุนทองคำในระยะสั้น นักลงทุนอาจรอซื้อในช่วงที่ราคาทองคำปรับฐานลง และหากราคาฟื้นตัวขึ้นไปแตะระดับแนวต้านได้ การขายทำกำไรบางส่วนอาจเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยง
