จากกรณีเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐและพิสูจน์หลักฐาน ได้บุกค้นหาศพในสำนักสงฆ์เถื่อนหูตาทิพย์ เจอทั้งหมด 17 หลุม พบ 12 ศพ เตรียมเรียกญาติตรวจ DNA รับศพ นำ 11 ศพ ไปฝากไว้ที่สุสานมังกรทอง อำเภอโกสัมพี และเตรียมจ่อดำเนินคดี หากศพใดนำมาผิดกฎหมาย อาจเข้าข่ายอำพรางซ่อนเร้นศพ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ตำรวจ สภ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร ได้ติดต่อญาติผู้เสียชีวิตได้ทั้งหมด 4 ราย และมีเพียง 3 ราย เข้ามายืนยันและเก็บตัวอย่าง DNA เพื่อส่งตรวจที่จังหวัดลำปาง ซึ่งหลังจากนี้ ผลการตรวจตรงกันกับญาติออก ก็จะให้รับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ส่วนใหญ่ศพที่มาบริจาคก็เป็นคณะลูกศิษย์ ซึ่งก็มีใบอนุญาตมอบศพถูกต้อง และหากหลังจากตรวจสอบญาติทั้งหมดแล้ว หากพบว่ามีการนำศพมาอย่างไม่ถูกต้อง อาจต้องดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยตำรวจอยากให้ญาติรีบเข้ามาติดต่อเพื่อรับศพไปจัดการให้เร็วที่สุด
ขณะที่ วานนี้ (21 พ.ย. 67) มีญาติจาก จ.อุดรธานี ศพของ น.ส.มลธิดา (สงวนนามสกุล) ชาว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ที่ทราบข่าว และตกใจมากที่ศพของหลานสาวตนเองมาโผล่ที่สำนักสงฆ์จังหวัดกำแพงเพชร ได้อย่างไร โดยรู้เพียงแค่ว่าหลานสาวไปทำงานในกรุงเทพฯ กับสามี และก็เสียชีวิต ซึ่งก็คิดว่าทำการเผาไปแล้ว โดยจากนี้จะเดินทางเข้ามาขอรับศพจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป ขณะที่ชาวบ้านตกใจ ไม่คิดว่าสำนักสงฆ์หูตาทิพย์ จะมีศพเยอะขนาดนี้ ยันขับรถผ่านยังสงสัยว่าทำอะไรกัน ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ หลังสำนักสงฆ์หูทิพย์ตาทิพย์ ตกเป็นข่าวดังและมีศพจำนวนมาก
โดย “นายแก่น” อายุ 43 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ที่วัดแห่งนี้ก็มีชาวบ้านรู้บ้างว่านำศพมาทำพิธี แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีศพเยอะมากขนาดนี้ โดยคนที่อื่นจะนำศพมาบริจาคให้ทางสำนักสงฆ์เป็นส่วนใหญ่ ชาวบ้านบางคนเข้าไปทำบุญก็ยังไม่รู้เลยว่ามีศพอยู่ ตนคนพื้นที่ขับรถผ่านบ่อย ยังไม่รู้เลยว่ามีการเก็บกระดูกและศพ ซึ่งคนที่ไม่บอกก็คงกลัวว่าเรื่องจะดัง ทำให้คนในพื้นที่กลัวจนหลอน เพราะอยู่กลางทุ่งนา หลังจากทราบข่าวเจ้าหน้าที่เอาศพออกมาเยอะ ตนก็ยังงงว่าจะเอามาไว้ที่นี่ทำไม ทำไมไม่ทำพิธีให้ถูกต้องตามประเพณี