ทำเอาแฟนๆ คิดถึงหนักมาก สำหรับ “พีช พชร” ที่หายหน้าหายตาไปจากการรับละครพักใหญ่ จนหลายคนพากันสงสัยว่าหนุ่มพีชหายไปไหนไม่น้อยเลยทีเดียว
หลังห่างหายไปนาน ล่าสุด พีช พชร ได้มาร่วมงานแถลงเปิดตัวซีรีส์ของทางช่องวัน31 สำหรับซีรีส์เรื่อง “ทิชา” ซีรีส์ฟอร์มยักษ์แนวเมโล-ระทึกขวัญแห่งปีของทางช่องวัน31 ซึ่งเป็นซีรีส์ที่ พีช พชร รับบทนำคู่กับสาว “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก” โดย พีชได้เล่าว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไปทำอะไรมาบ้าง พร้อมเผยเหตุผลที่รับเล่นซีรีส์เรื่องนี้ว่า
“จริงๆ ผมก็ยังมีอะไรทำอยู่เรื่อยๆ เพียงแต่มันอาจจะยังไม่ได้ออนแอร์เท่านั้นเอง โดยส่วนใหญ่การทำงานของผมคือจะทำทีละอัน มันก็จะใช้เวลานิดนึง แต่พอมีเวลาเยอะมันก็มีเวลาเตรียมตัวละครเยอะด้วย อย่างซีรีส์ทิชาผมก็ไว้ผมยาวเพื่อเล่นเรื่องนี้ พอเล่นเสร็จก็ตัดเลย แล้วการที่ไม่ต้องทำงานติดๆ กันมันก็เฮลตี้กับตัวเองดี เพราะการเป็นนักแสดงมันต้องใช้จิตใจเยอะเหมือนกัน เวลาทำอะไรเยอะๆ ติดกันมันก็จะเหนื่อย ฉะนั้นก็ต้องมีช่วงพักเบรกบ้าง แต่ก็มีหลายคนที่ถามว่าผมหายไปไหน บอกเลยว่ายังมีชีวิตอยู่ในวงการครับ ไม่ได้จะผันตัวไปทำธุรกิจเต็มตัวขนาดนั้น เพราะว่ามันสามารถทำควบคู่ไปด้วยกันได้กับงานแสดง ที่ผ่านมาผมไม่เคยบาลานซ์เรื่องงานแสดงกับธุรกิจส่วนตัวเลย คือมันโชคดีที่ว่างานแสดงมันมีตาราง ถ้ามีถ่ายตามนี้ๆ ทุกอย่างก็ต้องหลบนิดนึง ประชุมงานก็ไปช่วงว่างหน่อย แต่ช่วงนี้ก็ยอมรับว่าในส่วนของธุรกิจส่วนตัวจะหนักเหมือนกัน เพราะเป็นช่วงปลายปีแล้วก็ต้องเตรียมแพลนสำหรับปีหน้า ถามว่าตอนนี้พาร์ตไหนยากที่สุดสำหรับชีวิต คิดว่าน่าจะเป็นพาร์ตที่ผมไปเรียนต่อเนี่ยน่าจะหนักที่สุด ความที่เป็นปริญญาโทด้วยอยู่ในช่วงที่เราต้องทำวิจัยจบก็จะใช้เวลานิดหนึ่ง คิดว่าอีกปีนึงน่าจะจบ”
“จริงๆ ที่ผ่านมามีคนเสนอบทมาให้พอสมควร แต่สุดท้ายอ่านแล้วยังไม่ได้รู้สึกว่าเป็นบทที่เราควรจะเล่นหรือเป็นบทของเรา เลยยังมีโปรเจกต์อะไรที่ทำต่อ แล้วคำว่าบทของเรามันจะรู้สึกได้ ณ เวลานั้นเอง ผมไม่ได้มีการกะเกณฑ์ว่าอยากได้บทแบบนั้นแบบนี้ อยู่ที่ว่าถ้าอ่านแล้วเราชอบเรื่องไหนก็รับ ส่วนอันไหนที่อ่านแล้วไม่เห็นว่าเป็นตัวเองเล่นก็ต้องปฏิเสธไป ผมรู้สึกว่าบทในเรื่องทิชามันมีคุณค่าความสำคัญของมันอยู่ ท็อปปิกที่เรื่องต้องการจะเล่ามันมีประโยชน์กับสิ่งที่มันเกิดขึ้นอยู่ อย่างมีการพูดถึงเรื่องชนชั้นที่แตกต่างกัน พูดถึงการที่เราปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างไม่เท่าเทียมกัน ไม่ได้มองว่าคนอื่นเป็นคน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ต้องถูกพูดถึงในวงกว้าง เพราะมันมีเรื่องที่เกิดขึ้นจริงเยอะในสังคมบ้านเราว่ามันมีการค้ามนุษย์เกิดขึ้น แต่เราแค่ปิดตาข้างหนึ่งว่ามันไม่มี ผมรู้สึกว่าอย่างน้อยเราอาจจะไม่ได้มีพลังในการแก้ปัญหาได้ขนาดนั้น แต่เราช่วยเป็นจุดเริ่มต้นอะไรบางอย่างได้ รู้สึกว่าได้ลองทำงานกับเขาก็คงจะดีเหมือนกัน การได้เล่นกับนักแสดงที่เก่ง เรื่องที่ผ่านมาของเขาแต่ละเรื่องก็เป็นผลงานที่ทุกคนชื่นชมเยอะ เราก็อยากรู้เหมือนกันว่าการทำงานของเขาเป็นยังไง อยากจะมาเรียนรู้วิชาจากเขา แล้วพอได้มาทำงานด้วยกันจริงๆ คือสนุกมาก เขาทำให้ผมทำงานง่ายมาก ปกติเวลาอ่านบทเราจะเห็นภาพในแบบของตัวเอง แต่พอถึงเวลามาเล่นจริงๆ แล้ว เขามีกระบวนการที่เรียกว่าจัดการกับบทในแบบของเขา แล้วมันออกมาเป็นในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่เราเองก็ไม่ได้จินตนาการมา แล้วพอมันมาเจอกับสิ่งที่เราคิดมามันก็ใหม่เลย อีกอย่างที่เห็นเลยคือเขาเป็นคนที่เซนซิทีฟกับตัวละครมากๆ หมายถึงเขาไวกับตัวละคร แล้วตัวละครที่ผมได้รับมันต้องการเอนเนอร์จี้จากคนอื่นเยอะ เพราะฉะนั้นพอเขาขยับนิดนึง ความละเอียดมันเยอะมาก เราสามารถยืมสิ่งนี้ของเขามาใช้ได้ในซีน”
พีช เผยต่อว่า “คนยกตำแหน่ง หล่อ รวย เก่ง โปรไฟล์ดี ให้เอ่อ…ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าแต่ละอันเช็กลิสต์ผ่านไหม หล่อก็ไม่แน่ใจ รวยก็…รวยแต่เขืออย่างนี้ได้ไหม ไม่ดีเนอะ (หัวเราะ) เรียนโทก็ยังไม่จบด้วย ถามว่าเขินไหมที่คนยกตำแหน่งแบบนี้ให้ ใครพูดอะไรก็เขินหมดแหละ แต่น้อมรับก็ได้ อะไรที่มันดีก็เอาไว้ก่อน เนื้อหอมอยู่มั้ย ไม่แน่ใจเหมือนกัน ความรักเป็นยังไงก็ไม่รู้ครับ มีไหมก็ไม่รู้ แล้วแต่จะไปหากันเอง ถามว่าเรียนจบปริญญาโทแล้วมองเรื่องอนาคตเรื่องครอบครัวยังไง ยากจังเลย ผมไม่ได้คิดว่าอายุเท่านี้แล้วจะต้องเป็นอย่างนี้อย่างนั้น คือพอมันผ่านอายุมาประมาณหนึ่งเราก็เรียนรู้โลก มันไม่ได้สามารถวางได้ว่าอายุเท่านี้จะมีแต่งงานมีครอบครัว เพราะมันคงไม่ได้เกิดขึ้นจริงตามนั้นมั้ง แต่ถ้ามันถึงเวลาก็โอเคแหละ เพราะเราเองก็อยู่ในวัยที่สามารถทำได้ แต่แค่มันยังไม่ได้ถึงจุดที่เรารู้สึกว่ามันจำเป็นหรือเปล่า เราเองก็ยังมีสิ่งอะไรที่ยังอยากทำอยู่ ยังมีความรับผิดชอบที่เราเองก็ยังไม่พร้อมขนาดนั้น ผมว่าเดี๋ยวนี้คนเรามันลำบากขึ้น หมายถึงว่าความเป็นอยู่เราลำบากขึ้นแน่นอนสำหรับทุกๆ คน”
ขอบคุณภาพประกอบจาก: peach_pachara