เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังให้การต้อนรับ น.ส.สุชาตา ช่วงศรี (โอปอล) รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ผู้สื่อข่าวสอบถาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร นักกฎหมายอิสระ ร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และพรรคเพื่อไทย กระทำการอันเป็นการล้มล้างการปกครอง โดย น.ส.แพทองธาร ได้หันไปสอบถามข้อมูลกับทีมงาน ซึ่งทีมงานได้ยื่นคำวินิจฉัยให้นายกฯ อ่าน โดยนายกฯ ใช้เวลาอ่านข้อมูล 2-3 นาที ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนให้สัมภาษณ์ว่า “ดีค่ะ เพราะก่อนหน้านี้มันไม่ได้เป็นข่าวดีตลอดเวลา ข่าวที่ได้รับวันนี้ถือว่าเป็นข่าวดี รู้สึกดีใจ”
เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะเดินหน้าทำงานตามนโยบายต่อไปใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ว่าคำวินิจฉัยจะออกมาอย่างไร ก็ต้องทำงานต่อไปข้างหน้าอยู่แล้ว เพราะเราต้องแบ่งเรื่อง เรื่องของประเทศชาติต้องรับผิดชอบ เรื่องของนายทักษิณก็ต้องให้กำลังใจ
เมื่อถามต่อว่า คำสั่งศาลออกมาเช่นนี้ จะลดแรงกระเพื่อมทางการเมืองหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า การเมืองต้องเดินหน้าต่อไป รัฐบาลก็ต้องทำงานต่อไป และกรณีของนายทักษิณ สิ่งที่ท่านทำก็ไม่ใช่สิ่งถูกฟ้องร้อง ทำให้คิดว่าทุกคนที่ให้กำลังใจนายทักษิณอยู่ จะรู้สึกโอเคขึ้น รู้สึกนิ่งขึ้น
เมื่อถามย้ำว่า เรื่องนี้จะสะท้อนเสถียรภาพของรัฐบาล เพื่อให้ต่างชาติมั่นใจมากขึ้นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า สิ่งนี้คือสิ่งจำเป็น แต่เข้าใจเรื่องประเด็นการเมือง คนจะมาวิพากษ์วิจารณ์สามารถทำได้ทุกอย่าง เราเป็นบุคคลสาธารณะอยู่แล้ว แต่เราต้องพยายามทำให้รัฐบาลที่ตั้งขึ้นมา ทำงานให้จบ 4 ปี เพื่อนโยบายจะได้เสร็จสมบูรณ์ และต่างชาติจะได้ไม่ต้องไปคิดว่าการที่รัฐบาลไทยจะอยู่ครบ 4 ปี เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ อยากให้คิดว่าเมื่อเลือกตั้งแล้ว เลือกคนนี้มา พรรคนี้ตั้งรัฐบาลเสร็จแล้ว มีอายุทำงาน 4 ปี ในระบบควรเป็นอย่างนั้น ให้ทั่วโลกเข้าใจตรงกันแบบนี้ เพราะการเข้ามาลงทุน เขาต้องคิดแล้วว่า 2 ปี และอีก 2 ปี เป็น 4 ปีข้างหน้าชัวร์แล้ว เขาจะได้คิดว่าจะลงทุนอะไร เหมือนเราจะลงทุนที่ไหน จะเช่าร้านปีต่อปี เราจะต่อสัญญาหรือไม่ เราต้องรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้างหน้า ดังนั้นความมั่นคงของรัฐบาลเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก
เมื่อถามอีกว่า นายกฯ มีภูมิคุ้มกันทางการเมืองมากกว่านายกฯ คนอื่นๆ ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ภูมิคุ้มกันนั้นทุกคนก็คงมี แต่ภูมิคุ้มกันแบบนี้ต้องใช้พลังใจเยอะหน่อย คือเราพยายามมีสติ ยึดหลักธรรมะ เวลาดีใจ ต้องดีใจอย่างมีสติ เวลาเสียใจ ก็เสียใจอย่างมีสติ ที่เห็นตอนนี้ก็พยายามมีสติ ตนกำลังย่อยข้อมูลว่าเป็นอย่างไร
เมื่อถามถึงกรณีนายทักษิณ ไปพูดที่งาน Forbes เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา ระบุว่าเคยอยู่มาทั้งสวรรค์และนรกแล้ว นายกฯ กล่าวว่า คำนี้พูดประจำ นายทักษิณบอกว่าอายุ 70 กว่าปีแล้ว ชีวิตนี้เห็นมาหมดแล้ว ทั้งนรกทั้งสวรรค์ โดยนายทักษิณมักพูดว่า ทุกวันนี้เขามีความสุข เพราะได้กลับบ้านได้เจอลูก เจอหลาน ถ้าไม่สบายพวกเราก็ดูแลได้ เพราะตอนที่อยู่เมืองนอก ยังไม่รู้ว่าจะได้กลับเมื่อไหร่ ท่านก็พยายามที่จะไม่ป่วย พยายามดูแลตัวเองให้ดีที่สุด เพราะเวลาไม่สบายอย่างตอนที่เป็นโควิด มีอาการหนักมาก.