เมื่อวันที่ 26 ต.ค. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า มหากาพย์ศึกธรรมนัส ยังไม่จบ ข่าวการดีลเพื่อให้คณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐลาออกเกินครึ่งเพื่อเปิดทางให้มีการเลือกกรรมการบริหารพรรคใหม่ทั้งชุด เพื่อเอาเลขาธิการ และตำแหน่งอื่นๆ ที่เป็นเสี้ยนในใจของคนมีอำนาจบางคน กลายเป็นข่าวใหญ่ของวันนี้ โดยวิธีการดังกล่าว เป็นไปตามข้อบังคับพลังประชารัฐข้อที่ 15 ที่ระบุว่ากรรมการบริหารพรรคทั้งคณะพ้นจากตำแหน่งเมื่อ (3) กรรมการบริหารพรรคการเมืองว่างลงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการบริหารพรรคการเมืองทั้งหมด ซึ่งเทคนิคการให้กรรมการบริหารที่มีอยู่ 26 คน ในขณะนี้ลาออกอย่างน้อย 14 คน จึงถูกนำมาใช้ในขณะนี้ เพื่อให้มีการประชุมใหญ่ภายใน 45 วัน เพื่อล้างบางฝ่ายธรรมนัสให้พ้นหน้าที่ภายในพรรค ปัญหาที่หลายคนสงสัยคือหากกรรมการบริหารลาออกไม่ถึงครึ่งจะทำอย่างไร หากลาออกไม่ถึง 14 คน คนลาออกก็ซวยไป หัวหน้าพรรคก็จะแต่งตั้งคนใหม่มาทำหน้าที่จนกว่าจะมีการเลือกตั้งคนมาแทนตำแหน่งที่ว่างใน 90 วัน

“แล้วมีไม้เด็ดอะไรอีกหรือไม่ หากจะให้กรรมการบริหารพ้นจากตำแหน่งทั้งชุดคำตอบคือ มี ข้อบังคับที่ 15 (2) บอกว่า สิ้นสุดทั้งคณะได้ กรณีความเป็นกรรมการบริหารของหัวหน้าพรรคการเมืองสิ้นสุดลงตามข้อ 14 ซึ่งมี 4 กรณี คือ (1) ตาย (2) ลาออก (3) ขาดจากสมาชิกภาพ (4) อื่น ๆ ตามกฎหมาย หรือข้อบังคับพรรคดังนั้นหากจะเอากันจริง ลุงป้อม เลือก (2) ลาออกจากหัวหน้าพรรคก็จบแต่ไม่รับประกันว่า เขาจะเลือกกลับมาใหม่หรือไม่นะครับ ศึกมหาภารตะ นี้รบกันอีกนาน” นายสมชัยระบุ.