สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ว่า นาฬิกาข้อมือ 172 เรือน มูลค่ารวมประมาณ 14,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 485,000 บาท) ถูกยึดในการตรวจค้นร้านค้าสวอตช์ทั่วมาเลเซีย เมื่อเดือน พ.ค. 2566 ซึ่งในตอนนั้น เจ้าหน้าที่รัฐกล่าวว่า นาฬิกาเหล่านี้มีตัวอักษร “LGBTQ” และมี 6 สี เหมือนกับธงไพรด์สีรุ้ง
ในเวลาต่อมา รัฐบาลมาเลเซียสั่งแบนนาฬิกาข้อมือธีมสีรุ้งของสวอตช์ พร้อมกับเตือนว่า เจ้าของหรือผู้ขายนาฬิกาดังกล่าว อาจต้องรับโทษจำคุกสูงสุดถึง 3 ปี โดยอ้างว่า นาฬิกาข้อมือเหล่านี้ อาจสร้างความเสียหายต่อผลประโยชน์ของชาติ ด้วยการส่งเสริม สนับสนุน และทำให้ขบวนการความหลากหลายทางเพศที่ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชนทั่วไป กลายเป็นเรื่องปกติ
อย่างไรก็ตาม สวอตช์ยื่นฟ้องกรณีการยึดนาฬิกาข้อมือสีรุ้ง โดยระบุว่า ผลิตภัณฑ์ของบริษัทไม่ได้สนับสนุนกิจกรรมทางเพศใด ๆ แต่เป็นเพียงการแสดงออกถึงสันติภาพ กับความรักที่สนุกสนานรื่นเริง
A Swiss watchmaker has succeeded in getting back its Pride collection timepieces that authorities seized in a crackdown last year.
— malaysiakini.com (@malaysiakini) November 25, 2024
The Kuala Lumpur High Court today allowed Swatch Group (Malaysia) Sdn Bhd’s judicial review for the return of its watches in various rainbow shades… pic.twitter.com/VS5jDSV5pW
ทั้งนี้ ศาลสูงกรุงกัวลาลัมเปอร์ ตัดสินเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า กระทรวงมหาดไทยของมาเลเซีย ต้องส่งคืนนาฬิกาข้อมือให้กับสวอตช์ ภายใน 14 วัน อีกทั้งคำสั่งห้ามนาฬิกาของรัฐบาล ออกหลังจากการยึดสินค้าในเดือน พ.ค. ดังนั้น สวอตช์จึงไม่ได้กระทำความผิดใด ๆ ณ เวลาที่ทางการมาเลเซียดำเนินการยึดนาฬิกาข้อมือสีรุ้ง
ด้านนายไซฟุดดิน อิสมาอิล รมว.มหาดไทยของมาเลเซีย กล่าวว่า กระทรวงจะเคารพคำสั่งของศาล และทีมกฎหมายของรัฐบาลจะต้องตรวจสอบมูลฐานของคำพิพากษาอย่างละเอียดถี่ถ้วน ก่อนตัดสินใจว่าจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES