กรณี พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี/ผอ.ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย (ศปชก.) ภ.จว.สุราษฎร์ธานี มอบหมายให้ พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ ร่มไทร รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.กาญจนดิษฐ์ ปฏิบัติหน้าที่คณะพนักงานสอบสวนประจำ ศปชก. ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ให้ดำเนินคดี บริษัท จี.วี.เอ็น.อี.จำกัด, บริษัท แม็กซิเคท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทนิติบุคคลของนางแคทเทอร์รีน โจรี่ โรแล็นด์ เจอร์แมน เดลาโคท อายุ 59 ปี สัญชาติฝรั่งเศส ที่ก่อเหตุยิงตัวตายในวิลล่าหรูบนเกาะสมุย และชาวไทยอีก 2 คน ในความผิด ตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

ดับฝัน! แม่บ้านรับมรดกร้อยล้าน ตร.เอาผิด 2 บริษัทแหม่มสาว-นอมินีคนไทย

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 27 พ.ย. พ.ต.ท.ก่อเกียรติ บุญปลอด รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า สภ.เกาะสมุย ได้รับคดีสอบสวน คดีอาญา ที่ 399 /2567 บริษัท จี.วี.เอ็น.อี.จำกัด กับพวก และคดีอาญาที่ 400/2567 บริษัท แม็กซิเคท จำกัด กับพวก ซึ่งได้รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของสื่อมวลชนและประชาชนโดยทั่วไป ซึ่งคดีนี้ หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวน สภ.เกาะสมุย ได้ดำเนินการสอบสวนปากคำพยานในเบื้องต้นมาแล้วจำนวนหนึ่ง

พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ เปิดเผยว่า ในการร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อให้มีการดำเนินคดีกับนิติบุคคลและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในความผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ซึ่งศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย (ศปชก.) ได้ดำเนินการสืบสวนจนพบพยานหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำผิดแต่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่าความผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวเป็นการก่อคดีที่มีความซับซ้อนเกี่ยวพันกับความผิดทางอาญาของชาวต่างชาติที่มาเปิดบริษัท เพื่อทำธุรกิจของคนไทยและถือครองที่ดินโดยหลีกเลี่ยงกฎหมาย (นอมินี) มีคนไทยให้ความช่วยเหลือ

ดังนั้นเพื่อให้การสืบสวนสอบสวนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตนจึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมี พ.ต.อ.ศิริชัย สุขศาตต์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เป็นหัวหน้าคณะฯ, พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ ร่มไทร รอง ผกก.สภ.กาญจนดิษฐ์ ช่วยราชการพนักงานสอบสวน ศปชก. เป็นเลขานุการ และมี พ.ต.ท.ก่อเกียรติ บุญปลอด รอง ผกก.สอบสวน สภ.เกาะสมุย เป็น ผู้ช่วยเลขานุการ โดยให้คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน มีหน้าที่บูรณาการคณะพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่สืบสวน ร่วมกันรวบรวมและค้นหาพยานหลักฐาน เพื่อเอาผิดผู้ต้องหาได้อย่างรัดกุม

รานงานข่าวสืบสวนแจ้งว่า การสืบสวนข้อมูลของ ศปชก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ซึ่งได้เข้าสืบสวนข้อมูลของนางแคทเทอร์รีน หลังก่อเหตุฆ่าตัวตายแล้วยกทรัพย์สิน ที่ส่วนหนึ่งเป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้กับแม่บ้านคนไทย ซึ่งขัดกับข้อกฎหมายที่ไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวถือครองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในประเทศไทย ซึ่งจากการสืบสวนข้อมูลพบว่านางแคทเทอร์รีน ผู้ตาย ได้เข้ามาอยู่ที่ประเทศไทย เมื่อปี 2550 โดยเช่าบ้านพักอยู่บนเกาะสมุย ต่อมาประมาณเดือนมีนาคม 2555 ผู้ตาย ให้สำนักงานทนายความ ช่วยเหลือจดจัดตั้ง บริษัท จี.วี.เอ็น.อี.จำกัด ทำธุรกิจก่อสร้างบ้านขาย โดยใช้คนไทยเป็นนอมินี ถือหุ้นแทนในบริษัท และได้ไปซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ 3961 เนื้อที่ 1 ไร่ 1 งาน 83 ตร.ว. ต่อมาวันที่ 5 มีนาคม 2557 ได้แบ่งแยกโฉนดที่ดิน นำไปก่อสร้างอาคาร 5 หลัง ชื่อโครงการ “มะพร้าววิลล่า” ปัจจุบันขายออกไป 3 หลัง แต่ไม่มีรายงานการเสียภาษี หรือแบ่งผลกำไรให้หุ้นส่วนของบริษัท มีการหลีกเลี่ยงการซื้อขายโดยมีชาวต่างชาติเข้าถือครองวิลล่าทั้ง 3 หลัง ในนามนิติบุคคลเช่นกัน

ส่วน บริษัท แม็กซิเคท จำกัด เดิมเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน 1 แปลง เนื้อที่ 1 ไร่ 2 งาน เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2559 นางแคทเทอร์รีน ผู้ตาย ได้เข้าไปซื้อหุ้นใน บริษัท แม็กซิเคท จำกัด ทั้งหมด โดยใช้ชื่อคนไทยช่วยเหลือถือหุ้นแทน เพื่อเป็นเจ้าของที่ดิน จากนั้นได้นำที่ดินมาก่อสร้างอาคาร 3 ชั้น ไว้เป็นที่พักอาศัย และใช้อาวุธปืนยิงตัวตายในบ้านพักดังกล่าว

โดยในการสืบสวน ได้มีการตรวจสอบถึงความเป็นไปได้ของคนไทย 2 คน ที่เข้าร่วมเป็นกรรมการบริษัททั้ง 2 แห่งของนางแคทเทอร์รีน พบหลักฐานว่า คนไทยทั้ง 2 คน ทำหน้าที่เพียงถือหุ้นแทนเท่านั้นโดยไม่ได้มีการนำเงินมาลงทุนจริง ซึ่งการกระทำของนางแคทเทอร์รีน เข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานและนำไปสู่การแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าว

ส่วนความเคลื่อนไหวของ นางณัฐวลัย หรือ ป้าติ๋ม แม่บ้านชาวไทยผู้โชคดี ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ไปที่บ้านพักของป้าติ๋ม เพื่อขอพูดคุยด้วย แต่ป้าติ๋มปฏิเสธที่จะให้ความเห็นด้านคดีที่บริษัทของนางแคทเทอร์รีน ถูกแจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ส่วนตัวก็ยังคงไปดูวิลล่าที่เกิดเหตุตามปกติ ส่วนโครงการมะพร้าววิลล่า ก็มีอดีตสามีของนางแคทเทอร์รีน เป็นผู้ดูแล ส่วนเรื่องทรัพย์สินก็ได้เป็นปกติตามพินัยกรรมที่เขียนไว้ ตนไม่ได้มีความกังวลใจอะไรทั้งสิ้น