นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี เปิดเผยถึงความก้าวหน้าการลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินหลังจากเกิดกรณีปัญหาเกี่ยวกับเอกชนคู่สัญญาไม่สามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินได้ ว่า ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนที่เอกชนคู่สัญญาต้องได้เงินกู้จากสถาบันการเงิน เพราะสัญญาร่วมลงทุนกำหนดว่าให้เอกชนคู่สัญญาทำสัญญาเงินกู้โครงการกับสถาบันการเงิน ภายใน 240 วัน นับจากวันที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ออกหนังสือแจ้งเริ่มงานก่อสร้างอย่างเป็นทางการในช่วงประมาณเดือน มี.ค.65 ดังนั้นจึงทำให้เอกชนยังมีเวลาในการกู้เงินถึงเดือน พ.ย.65

ส่วนความก้าวหน้าโครงการ ขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ส่งมอบพื้นที่พร้อมก่อสร้างของโครงการช่วงสุวรรณภูมิถึงอู่ตะเภาให้เอกชนคู่สัญญาแล้ว 98.11% ระยะทางประมาณ 160 กิโลเมตร คิดเป็นพื้นที่ 3,513 ไร่ 1 งาน 3 ตารางวา ซึ่งเอกชนคู่สัญญา ได้ทยอยเข้าเตรียมการก่อสร้างแล้วตั้งแต่ปลายปี 63 ประกอบด้วย การสร้างถนน และสะพานชั่วคราวของโครงการ การสร้างโรงหล่อชิ้นส่วนทางวิ่งรถไฟ การสร้างบ้านพักคนงาน โดย รฟท. จะส่งมอบพื้นที่ที่เหลืออีก 1.89% ภายในเดือน ม.ค. 2565

นอกจากนี้กรณีเอกชนเข้ารับดำเนินการแอร์พอร์ตลิงก์นั้น ทางเอกชนได้เข้าดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงแล้วเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2564 และการดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่พบปัญหาอุปสรรคใด ๆ ในการให้บริการประชาชน โดย รฟท. ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้เอกชนได้เสนอการลงทุนพัฒนาแอร์พอร์ต เรลลิงก์ เป็นจำนวนเงินไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท ในการจัดหาขบวนรถไฟฟ้าเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน โดยรัฐไม่เสียประโยชน์ และเอกชนได้รับความเป็นธรรม