จากกรณีเมื่อวันที่ 10 พ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียน จากน.ส.สุภาวดี จูงงาม อายุ 46 ปี มารดา หลังลูกชายวัย 18 ปี ถูกวัยรุ่นใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดภายในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งภายในซอยกอไผ่ ปมเหตุเกิดจากเรื่องหึงหวง โดยทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายอาร์ม สมาชิกแก๊งน้ำเต้า ทางครอบครัวเกิดความหวาดกลัว จึงวอนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ติดตามจับกุมตัวคนร้าย ตามที่ได้นำเสนอข่าวแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 22.36 น. วันที่ 27 พ.ย. 67 พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันสีห์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ชัยณรงค์ จิตต์สุนทร สว.สส.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ได้ นำหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่ 663/2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธ โดยใช้กำลังประทุษร้ายและทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุได้รับอันตรายกายหรือจิตใจ และพาอาวุธมืดไปในมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ไปควบคุมตัว ผู้ต้องหา คือ นายเพชรชัย แดงมณี หรืออาร์ม สมาชิกแก๊งค์น้ำเต้า อายุ 22 ปี ได้ที่บริเวณริมถนนเฉลิมพระเกียรติ สายสาม พัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
พ.ต.ท.ฐานานนท์ เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามติดตามจับกุมคนร้ายในทุกๆ คดี ซึ่งคนร้ายรายนี้ ได้รับแจ้งจากสายลับว่า กำลังเดินปนเปอยู่ริมถนนสายสาม จึงได้นำกำลังไปปิดล้อม เมื่อพบตัวผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวพร้อมหมายจับ แต่ผู้ต้องหากลับ ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่จับกุม ก่อนจะวิ่งหนีแบบสุดชีวิต แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังปิดล้อมไว้แล้ว เมื่อผู้ต้องหาจนตรอก จึงชักอาวุธมีด ซึ่งเป็นเล่มเดียวกันที่ใช้ทำร้ายผู้เสียหาย จ้วงแทงใส่เจ้าหน้าที่ โชคดีที่เจ้าหน้าที่หลบทันจึงควบคุมตัวได้พร้อมของกลาง
เบื้องต้นได้ควบคุมตัว นายเพชรชัย แดงมณี หรืออาร์ม สมาชิกแก๊งน้ำเต้า อายุ 22 ปี พร้อมของกลางเป็นอาวุธมีด ยาวประมาณ 15 เซนติเมตร ส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่า แก๊งน้ำเต้านั้น มีสมาชิกรายอื่น เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา จับกุมในข้อหาลักทรัพย์ โจรกรรมรถจักรยานยนต์ในพื้นที่เมืองพัทยา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งนายอาร์ม เป็นหนึ่งในสมาชิกแก๊งน้ำเต้า แต่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น ทางเจ้าหน้าที่จะต้องทำการสืบสวนต่อ หากพบว่ามีการกระทำผิดก็จะต้องแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในภายหลัง.