เมื่อวันที่ 28 พ.ย. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบพรรครวมไทยสร้างชาติต้องออกใบเสร็จรับเงินค่าจำหน่ายสินค้า (เสื้อทั้ง 2 ตัว) ให้เป็นไปตามแบบ พ.ก. 9 หรือไม่ โดยสืบเนื่องมาจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ลงโฆษณา จัดงาน รวมไทยสร้างชาติแฟร์ วันที่ 12–15 ก.ย. 2567 เวลา 10.00–19.00 น. ณ MBK Center ลาน Avenue ชั้น G ฝั่งถนนพระรามที่ 1 ซึ่งได้ให้เพื่อนไปซื้อเสื้อคอกลมขาว (XL) มาให้ 1 ตัว ในราคาตัวละ 150 บาท โดยสแกนจ่ายเงินจากบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เข้าบัญชีพรรครวมไทยสร้างชาติ ธนาคารกรุงไทย (KTB) เลขที่ 034-0-25375-4 ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติได้ออกหลักฐานเป็นบิลเงินสด เล่มที่ 01 เลขที่ 010 นาม โอน ลงวันที่ 12 ก.ย. 2567 จำนวน 1 ตัว รายการ เสื้อคอกลม ขาว (XL) ราคา 150 บาท ตีตรา “จ่ายเงินแล้ว” พร้อมลงลายมือ “ผู้รับเงิน” ไว้ด้วย และวันที่ 15 ก.ย. 2567  ตนได้ให้เพื่อนไปซื้อเสื้อแจ๊กเกต (L) มาให้อีกหนึ่งตัว ในราคาตัวละ 700 บาท โดยมีการออกบิลเงินสดเล่มที่ 01 เลขที่ 011 พร้อมลงลายมือ “ผู้รับเงิน” ไว้ด้วย   

แต่จากการซื้อเสื้อพรรคทั้ง 2 ตัว ต่างวันกันข้างต้น จนถึงปัจจุบัน พรรครวมไทยสร้างชาติยังไม่ได้ออกใบเสร็จรับเงินตามแบบ พ.ก. 9 ซึ่งแนบท้ายระเบียบกกต.ว่า ด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2563 ข้อ 35 ซึ่งระบุไว้ว่า “เมื่อพรรคการเมือง สาขาพรรคการเมือง หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด ดำเนินการจำหน่ายสินค้าหรือบริการ ให้ออกใบเสร็จรับเงินตามแบบ พ.ก. 9 ให้ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ” ซึ่งการจำหน่ายเสื้อถือเป็นรายได้ของพรรคการเมือง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 หมวด 5 มาตรา 62 วรรคหนึ่ง (3)  

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า ดังนั้น จากกรณีดังกล่าว จึงมีเหตุอันควรขอให้ กกต. ตรวจสอบว่า ตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องยังมีผลใช้บังคับอยู่หรือไม่ และตรวจสอบว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องดังกล่าว หรือไม่.