เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่บริเวณจุดก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมลำน้ำปาว ชุมชนซอยน้ำทิพย์ เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นางสาวรัตนา มาตประสงค์ ประธานชุมชนซอยน้ำทิพย์ พร้อมด้วย นายทรงศักดิ์ คิสารัง รองประธานชุมชนซอยน้ำทิพย์ และชาวบ้านชี้จุดโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำปาว บริเวณซอยน้ำทิพย์ เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ หลังผู้รับเหมาทิ้งงานหยุดการก่อสร้างจึงเกิดความสงสัยเพราะไม่มีหน่วยงานไหนภายในจังหวัดเข้ามาทำความเข้าใจให้กับชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านรู้สึกไม่ปลอดภัยเนื่องจากสภาพการทิ้งงานภายหลังน้ำลดกลายสภาพพอเห็นเหมือนสุสานเสาเข็ม กองหิน กองดิน โดยเฉพาะในบริเวณทางเท้าที่เคยสวยงามที่ประชาชนสามารถไปออกกำลังกายได้ แต่ปัจจุบันจะเดินลงไปยังไม่กล้า เพราะเส้นทางถูกเปิดขรุขระ เต็มไปด้วยเศษซากกองดิน กองหิน ทำให้เกิดอุบัติเหตุเนื่องจากถนนทรุด อีกทั้งยังทำให้น้ำขังผวาจะมีโรคระบาดโดยเฉพาะโรคไข้เลือดออกและโรคฉี่หนูที่มากับความสกปรกหมักหมมในน้ำขัง

นางสาวรัตนา มาตประสงค์ ประธานชุมชนซอยน้ำทิพย์ กล่าวว่า เส้นทางการก่อสร้างนี้ก่อนหน้าไม่ต่างจากพื้นที่ที่อยู่ทั้ง 8 โครงการ เนื่องจากมีปัญหาน้ำท่วม ก็ได้รับการจัดสรรเหมือนในโครงการทั้ง 8 ที่เขาประณามว่า 7 ชั่วโคตร เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแต่กลับถูกทิ้งงานอย่างน่าตกใจ เมื่อประมาณปลายเดือน ต.ค. 64 เห็นผู้รับเหมาขนเครื่องจักรวัสดุอุปกรณ์มาลงพื้นที่ทำการปรับหน้าดินตลอดแนวลำปาวในชุมชนซอยน้ำทิพย์ จากการสอบถามผู้รับเหมาทราบว่า โครงการเขื่อนดังกล่าวมีความยาว 937 ม. เริ่มต้นสัญญา 10 ก.ย. 64 สิ้นสุดสัญญา 20 ส.ค. 66 งบประมาณ 59,350,000 บาท ช่วงที่ดำเนินการก่อสร้างเห็นทำๆ หยุดๆ ทั้งปรับหน้าดิน และตอกเสาเข็มได้ระยะหนึ่ง ก่อนที่ผู้รับเหมาจะขนย้ายเครื่องจักรหนีไป โดยไม่มีใครมาแจ้งว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมทิ้งงานไปเฉยๆ

ต่อมาทราบว่าอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองมาดูสภาพพื้นที่และปัญหาที่เกิดขึ้นจึงได้ทราบว่ามีการเบิกจ่ายไปแล้ว 10,336,000 บาท แต่ถึงวันนี้ยังไม่มีการแก้ไขปัญหาใดๆ ทำให้เกิดความหวาดผวาเพราะลำน้ำปาวแห่งนี้เดิมตื้นเขินและคันคูต่ำ ถึงฤดูฝนตกน้ำปาวเอ่อท่วมพื้นที่ ซึ่งเคยเกิดสภาวะน้ำท่วมใหญ่ในปี 54 เมื่อเห็นโครงการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งของกรมโยธาธิการและผังเมืองมาลงพื้นที่ พี่น้องประชาชนชาวเมืองกาฬสินธุ์ก็ดีใจที่จะได้มีตลิ่งที่มีความมั่นคง แข็งแรง ป้องกันน้ำท่วม และมีถนนคนเดินบนสันตลิ่งที่สวยงามเป็นจุดชมวิวกลางเมืองกาฬสินธุ์ แต่พอผู้รับเหมาทิ้งงานไปอย่างนี้ก็อยากจะได้รับฟังคำชี้แจงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด โยธาธิการและผังเมือง เพราะชาวชุมชนเราอยากเห็นความสวยงาม ความเจริญของบ้านเมืองกาฬสินธุ์ ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องและกราบ “นายกฯ อิ๊งค์” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เร่งสางปัญหานี้ โดยหาผู้รับเหมารายใหม่มาก่อสร้างต่อให้แล้วเสร็จด้วย

ด้านนายทรงศักดิ์ คิสารัง รองประธานชุมชนซอยน้ำทิพย์ กล่าวว่า เดิมสภาพลำปาวที่เชื่อมเข้ามากลางชุมชนซอยน้ำทิพย์จะเกิดภาวะน้ำท่วมในฤดูน้ำหลากเป็นประจำ โครงการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งที่เข้ามาดำเนินการจึงเป็นความหวังของชาวชุมชนซอยน้ำทิพย์ ว่าจะได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน แต่พอเห็นการทำงานผู้รับเหมาที่ไม่ต่อเนื่องและเปลี่ยนหน้าผู้รับเหมารายใหม่เข้ามา 2-3 ราย แล้วก็มีลักษณะเดียวกันอีกคือ ทำๆ หยุดๆ สุดท้ายก็ขนย้ายเครื่องจักรและวัสดุอุปกรณ์หนีไปหมด ทิ้งไว้เพียงร่องรอยการก่อสร้างและเสาเข็มที่ตั้งเรียงรายอยู่ ขณะที่ผิวถนนริมฝั่งลำปาวในชุมชนบางจุดเริ่มทรุดตัว และแตกร้าว เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ภาวะน้ำขังยังเสี่ยงเกิดโรคระบาดไม่ว่าจะเป็นไข้เลือดออก โรคฉี่หนู ทำชาวบ้านเดือดร้อน

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ผู้รับเหมาทิ้งงานในระดับพื้นที่ยังไม่มีใครเข้ามาชี้แจงสาเหตุที่เกิดขึ้น รวมทั้งไม่รู้ว่าจะมีการก่อสร้างเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ซึ่งชาวชุมชนซอยน้ำทิพย์และชาวเมืองกาฬสินธุ์ยังรอคำตอบ แต่เมื่อผู้รับเหมาทิ้งงานไปนานหลายเดือนไม่มีวี่แววว่าจะมีผู้รับเหมามาทำงานต่อ ในขณะที่ตนและชาวบ้านชาวเมืองกาฬสินธุ์ทุกคน อยากเห็นชุมชนและจังหวัดกาฬสินธุ์มีความเจริญก้าวหน้า โดยที่ยังไม่มีหน่วยงานไหนออกมาชี้แจง และทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ซึ่งได้แต่รอคอยและสอบถามกันไปมาเหมือนเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ สุดท้ายก็จึงออกมากราบวิงวอนไปยัง “นายกฯ อิ๊งค์” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้รีบเร่งจัดหาผู้รับเหมารายใหม่มาก่อสร้างให้แล้วเสร็จ ซึ่งต้องมาดำเนินการก่อนที่จะถึงฤดูน้ำหลากเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมใหญ่ด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่าการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าตรวจสอบครั้งนี้เป็นความหวังเดียวที่ประชาชนเชื่อมั่นว่า “นายกฯ อิ๊งค์” จะติดตามตรวจสอบปัญหานี้ให้กับประชาชนได้ ขณะที่การเรียกร้องให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ช่วยติดตามก็เนื่องจากกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง และดูแลจังหวัดกาฬสินธุ์ เนื่องจากปัญหานี้ภายหลังจากที่กรมโยธาธิการและผังเมือง ยกเลิกสัญญายังไม่มีความชัดเจนในการดำเนินการเอาผิดกับผู้รับจ้างทิ้งงาน อีกด้านการเยียวยาให้กับกลุ่มแรงงานที่ไม่ได้รับค่าจ้างจาก หจก.รับเหมา ยังไม่มีการเข้ามาแก้ไข ทั้งที่ในอดีตอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองได้ลงพื้นที่และรับปากจะส่งเรื่องต่อให้ นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.กาฬสินธุ์ ทำหน้าที่เจรจากับ หจก.ทิ้งงาน ให้กลุ่มแรงงานที่ลงทุนไปได้เงินคืนแต่จนถึงขณะนี้กลับไม่มีการเคลื่อนไหวจากทางจังหวัดในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน รวมถึงการเอาผิดกับ 2 หจก.ทิ้งงาน ตามหลักกฎหมายและหลักธรรมาภิบาลที่สงสัยว่าติดปัญหาอะไรในการแก้ไขปัญหานี้ให้กับประชาชน