เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าหารือกับเลขาธิการ กกต. ว่า ประเด็นหลักที่พูดคุยกันในวันนี้คือการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งก็แยกออกมา 2 ประเด็น คือประเด็นแรกเป็นเรื่องเฉพาะหน้า และประเด็นที่สองการแก้ไขหรือปรับปรุง พ.ร.บ.การเลือกตั้งท้องถิ่นเพื่อให้มีกติกาที่มีประสิทธิภาพ และเปิดกว้างการมีส่วนร่วมของประชาชนมากขึ้น ซึ่งประเด็นแรกเป็นเรื่องการกำหนดวันเลือกตั้งท้องถิ่นในระดับองค์การบริหารส่วนจังหวัด ทั้งนายก อบจ. และสมาชิก อบจ. ที่จะหมดวาระ ซึ่งตามที่ กกต. ได้กำหนดเลือกตั้งทั่วประเทศเป็นวันเสาร์ที่ 1 ก.พ. 68 โดยก่อนหน้านี้ตนเคยตั้งข้อสังเกตว่าทำไมต้องเลือกตั้งวันเสาร์ เพราะเห็นว่าถ้าเรายึดเอาประโยชน์ของประชาชนวันอาทิตย์น่าจะสะดวกกว่า อย่างที่ทราบ ผู้มีสิทธิเป็นทั้งพนักงานในโรงงาน ที่มีแนวโน้มจะทำงานวันเสาร์มากกว่าวันอาทิตย์ รวมถึงบางคนอาจจะทำงานในจังหวัดที่แตกต่างจากจังหวัดที่ตนเองมีสิทธิ เขาอาจจะต้องการเวลาในวันเสาร์เพื่อเดินทางกลับมาใช้สิทธิ อีกทั้งเมื่อเราย้อนกลับไปดูทุกการเลือกตั้ง จะเห็นว่า กกต. กำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันอาทิตย์ทั้งนั้น

นายพริษฐ์ กล่าวว่า ทาง กกต. เองได้ให้คำตอบว่าที่เลือกวันเสาร์นั้น เพราะกลัวเสี่ยงต่อข้อกฎหมายกรอบเวลา 45 วัน ที่วันอาทิตย์ที่ 2 ก.พ. ครบกรอบ 45 วันพอดี ซึ่งตนมองว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร เพราะกฎหมายกำหนดกรอบ 45 วัน นั่นก็สามารถจัดวันที่ 45 ได้ นั่นคือวันที่ 2 ก.พ. แต่เพื่อจะช่วย กกต. ให้คลายข้อกังวล เราก็ได้ออกหนังสือถามความเห็นเชิงกฎหมายไปยังสำนักกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งก็ได้คำตอบว่า สามารถจัดได้ วันนี้เราจึงมาเสนอให้เลขาธิการ กกต. ได้นำเรื่องดังกล่าวนี้ไปทบทวนเรื่องของวันเลือกตั้ง อบจ.

ส่วนเรื่องของแนวทางในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นที่ทาง กมธ.พัฒนาการการเมืองฯ เราทำมาอย่างต่อเนื่อง วันนี้จึงได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความเห็นกับ กกต. โดยมี 2 ประเด็นที่เราแลกเปลี่ยนกัน คือ ประเด็นที่ 1 เรื่องปัญหาที่ผู้บริหารท้องถิ่นได้ลาออกก่อนหมดวาระ เลยทำให้การเลือกตั้งท้องถิ่นในจังหวัดหนึ่งๆ ต้องเกิดขึ้นถึง 2 ครั้ง ซึ่ง กกต. ได้บอกว่าต้องใช้งบประมาณมากและผู้มาใช้สิทธิก็ลดลง เราเสนอไปว่า ถ้าอยากให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นพร้อมๆ กัน มีแนวทางคือให้กำหนดวาระที่ล็อคไว้เลย เช่น เมื่อได้รับเลือกมาเป็นนายก อบจ. วาระ 4 ปี ผ่านไป 3 ปีแล้วมีการลาออก ก็จะมีการเลือกตั้งใหม่ แต่คนใหม่ที่ได้รับเลือกมาก็จะมีวาระงานเพียง 1 ปีที่เหลือ หรือถ้าไม่อยากให้มีการเลือกตั้งระหว่างวาระ ก็ให้ระบุไว้เลยว่าใครคือรองนายก อบจ. คนที่ 1 หรือ 2 ที่จะขึ้นมาทำหน้าที่แทน หากนายก อบจ. ออกจากตำแหน่ง ไม่ว่าจะกรณี ลาออก เสียชีวิต หรือให้พ้นจากตำแหน่ง นั่นก็เป็นการแลกเปลี่ยนเพื่อให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นได้เกิดขึ้นพร้อมกัน และเพื่อประโยชน์ของประชาชนมาใช้สิทธิ และตัวของ กกต. เองที่จะช่วยประหยัดงบประมาณบางส่วน ส่วนประเด็นที่สอง การขยายสิทธิให้ประชาชนในการเลือกตั้ง เช่น สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งในและนอกเขต นอกราชอาณาจักร ที่อาจจะพิจารณาให้มีการเลือกทางไปรษณีย์ นายพริษฐ์ กล่าว

เมื่อถามว่า การกำหนดวันที่ต้องไปทบทวนใหม่นั้น ต้องให้ กกต. ใช้เวลาเท่าไหร่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตอนนี้กรอบเวลายังทันอยู่ ตราบใดที่วาระของ อบจ. ยังไม่หมด ซึ่งจะหมดลงวันที่ 19 ธ.ค. 67 เราได้เสนอไปว่า ถ้าทาง กกต. พอใจแล้วกับคำตอบของสำนักงานกฎหมาย สภา ก็สามารถทบทวนได้เลย แต่ถ้าต้องการความเห็นเพิ่มเติม ให้ทำเรื่องสอบถามไปยังกฤษฎีกา ทำเช่นนี้จะทำให้ทาง กกต. สะดวกและสบายใจมากขึ้น ในการกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 2 ก.พ. 68

เมื่อถามว่า สุดท้ายแล้วถ้ายังใช้วันที่ 1 ก.พ. เลือกตั้งอยู่ จะมีผลกระทบอย่างไร นายพริษฐ์ กล่าวว่า ในฐานะ กมธ.การพัฒนาการเมืองฯก็เชื่อว่าอาจจะกระทบกับประชาชนบางกลุ่มที่จะต้องมาใช้สิทธิในวันเสาร์ แต่ท้ายที่สุดก็เป็นหน้าที่ของ กกต. ที่จะหาทางออกให้กับคนกลุ่มนั้น เพื่อรักษาสิทธิของเขาไว้ ส่วนในนามพรรคประชาชนเราในฐานะผู้สมัครพรรคหนึ่ง เราคงต้องพร้อมแข่งขันกับทุกกติกา พรรคเราจะทำอย่างเต็มที่

เมื่อถามว่า ในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะเปิดให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต นอกราชอาณาจักรได้ มองหรือไม่ว่าคนอาจจะมองว่าเป็นการแก้กฎหมายเอื้อประโยชน์ให้พรรคประชาชนเอง เพราะตลอดมา พรรคเองได้ย้ำว่าปัจจัยในการเลือกตั้งคือคนมาใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขต นอกราชอาณาจักร นายพริษฐ์ กล่าวว่า ในฐานะ กมธ.พัฒนาการเมืองฯ เราให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกให้ประชาชน ดังนั้นเราไม่ได้เจาะจงแค่การเลือกตั้งล่วงหน้า แต่เรามองถึงทุกความเป็นไปได้ พยายามให้ประชาชนมีความสะดวกในการไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ดังนั้นเราไม่ได้กังวลถึงการจะมองแบบนั้น ส่วนในนามพรรคประชาชน ก็ขอว่าอย่าไปคิดแทนประชาชนว่าผู้ที่เลือกตั้งล่วงหน้าเขาจะเลือกผู้สมัครคนไหนเลย.