ปัญหาใหญ่ประการหนึ่งของคนหนุ่มสาวในปัจจุบันก็คืออาการผมร่วงและศีรษะล้านก่อนวัยอันควร สร้างความกังวลทั้งในแง่สุขภาพและบุคลิกภาพของผู้ที่มีอาการนี้
เดฟ แอสพรีย์ อินฟลูเอนเซอร์ด้านไลฟ์สไตล์และเจ้าพ่อเคล็ดลับดูแลสุขภาพและชะลอวัยคนดังออกโรงแนะแนวทางแก้ไขสำหรับคนหนุ่มสาวที่กำลังประสบปัญหาดังกล่าว
กูรูสายสุขภาพวัย 51 ปีใช้เวลาหลายสิบปีในการศึกษา รวมถึงใช้ตัวเองเป็นร่างทดลองเพื่อค้นหาเคล็ดลับในการช่วยดูแลสุขภาพและคงความหนุ่มสาว เผยว่าเขาเคยย้ายต่อมรากผม 10,000 จุดจากบริเวณด้านข้างศีรษะของเขาเองไปไว้ทางด้านหน้า เพื่อแก้ปัญหาผมร่วงก่อนที่มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่
แต่เขาแนะนำว่ามีวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยบรรเทาอาการผมร่วงในคนหนุ่มสาวด้วยการใช้ “กาเฟอีนเฉพาะที่” โดยส่วนตัวของเขาจะใช้ร่วมกับแอสไพรินและสารประกอบอื่น ๆ ร่วมด้วย
แอสพรีย์กล่าวว่า สิ่งที่ควรทำเมื่อผมร่วงตั้งแต่อายุยังน้อยก็คือเลือกใช้แชมพูที่เหมาะกับตัวเอง อย่าใช้ผลิตภัณฑ์แปลก ๆ กับเส้นผม รวมทั้งเลิกใช้เครื่องเป่าผม นอกจากนี้เขายังแนะให้ลองรับการทดสอบเกี่ยวกับการรับสารพิษในตัว รวมถึงระดับฮอร์โมนในร่างกายว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ ซึ่งอาจจะต้องพิจารณาการใช้ยารักษาผมร่วงหรือยาปลูกผมร่วมด้วย
ส่วนการใช้กาเฟอีนเฉพาะที่นั้นกำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยมีแชมพูหลายชนิดที่ผสมกาเฟอีนลงไปด้วยโดยกล่าวอ้างว่าช่วยเร่งให้ผมงอกเร็วขึ้น
ดร. มิเชล กรีน แพทย์ผิวหนังที่ผ่านการรับรองจากนิวยอร์กซิตี้ กล่าวว่า “กาเฟอีนเป็นสารกระตุ้นที่เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ช่วยให้สารอาหารและออกซิเจนที่มีประโยชน์ส่งไปยังต่อมรากผมเพื่อให้ต่อมเหล่านี้แข็งแรง”
ดร. กรีน อธิบายว่า กาเฟอีนมีสารฟลาโวนอยด์ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ นอกเหนือไปจากได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยลดการชี้ฟูและทำให้ผมนุ่มสลวย เงางาม และสุขภาพดี
ดร.กรีนเสริมว่า การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคาเฟอีนนั้น “ปลอดภัยสำหรับผมสีอ่อน” และสามารถใช้ได้โดย “นวดผลิตภัณฑ์ลงบนหนังศีรษะเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและทำให้ส่วนผสมถูกดูดซึมได้มากขึ้น” และชี้ว่าอาจต้องใช้เวลาประมาณ 4 เดือนจึงจะสังเกตเห็นว่าสภาพผมดูดีขึ้นหรือมีผมขึ้นมากกว่าเดิม
แต่กูรูอย่างแอสพรีย์ก็มีคำเตือนว่า ไม่ควรใช้ยาแก้ผมร่วงที่เรียกว่าฟินาสเตอไรด์ (Finasateride) เพราะจะมีผลข้างเคียงที่อาจทำให้เป็นหมันได้อย่างถาวรในอัตรา 5% ของผู้ใช้เพศชาย
นอกจากนี้ยังเคยมีผลงานวิจัยเกี่ยวกับฟินาสเตอไรด์ที่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างการใช้ยานี้กับภาวะมีบุตรยาก รวมถึงความต้องการทางเพศที่ลดลง คุณภาพของอสุจิของผู้ป่วยชายแย่ลงหรือกลายเป็นหมัน แต่จะกลับมาเป็นปกติหลังจากที่หยุดใช้ฟินาสเตอไรด์
ที่มา : ladbible.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES