เมื่อวันที่ 26 ต.ค. นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการติดตามปัญหางานก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ตามที่มีการร้องเรียน ว่า ล่าสุด กมธ. ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง โดยประเด็นน้ำรั่วซึมเข้าพื้นที่อาคารรัฐสภา เนื่องจากจุดเชื่อมของอาคารทั้ง 3 แห่งคือ (1) อาคารวุฒิสภา (2) อาคารสภาผู้แทนราษฎร และ (3) อาคารโถงกลาง ไม่มีหลังคาเชื่อมเข้าหากัน เมื่อฝนตกทำให้มีน้ำฝนสาดเข้าสู่พื้นที่ ทั้งนี้ กมธ.ฯ ขอให้ สำนักงานเลขาธิการสภาฯ แก้ไข และล่าสุดทราบว่าสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ได้เขียนแบบหลังคาเพื่อคลุมจุดเชื่อมทั้งหมดและอยู่ระหว่างดำเนินการขั้นตอนต่อไป ส่วนกรณีที่พบน้ำรั่วในห้องประชุมสุริยัน เกิดจากรอยรั่วของซีเมนต์ และตะเข็บเชื่อมต่อ โดยผู้รับจ้างได้แก้ไขเบื้องต้นแล้ว
นายอนันต์ กล่าวด้วยว่า ส่วนประเด็นที่พบว่าการติดตั้งฝาผนังห้องประชุม กมธ.ไม่เป็นไปตามรูปแบบ ได้เชิญ ตัวแทนผู้ออกแบบ, นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์, ผู้อำนวยการโครงการบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียรุ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ฐานะผู้รับจ้างก่อสร้างเข้าชี้แจงโดยผู้ออกแบบ ได้ยืนยันการออกแบบ ขณะที่ผู้รับจ้างก่อสร้างยืนยันทำตามแบบ ทำให้ต้องรอการพิสูจน์จากนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ ที่ตรวจสอบเรื่องเสียงอีกครั้ง และคาดว่าจะทราบผลเร็วๆ นี้ หากพบข้อผิดพลาด ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขให้เป็นไปตามสัญญาจ้างและกระบวนการตามกฎหมายหรือสัญญาจ้างต่อไป
“ผมขอยืนยันการตรวจสอบในสภาฯ ที่ กมธ. ดำเนินการ ซึ่งประกอบด้วย ส.ส.จากทุกพรรค เชื่อว่า ส.ส.ทุกคนจะช่วยตรวจสอบทุกรายละเอียด ส่วนกรณีที่มีบุคคลภายนอก ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบงานก่อสร้างนั้น ผมถือว่าเป็นเรื่องดีที่ทุกคนมีส่วนช่วยกัน อย่างไรก็ดีเมื่อมีเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบ กมธ.กิจการสภาฯ พร้อมรับเรื่องเพื่อแก้ไขปัญหาให้” นายอนันต์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตามรายงานของ กมธ.กิจการสภาฯ ต่อปัญหาการติดตั้งฝาผนังห้องประชุม กมธ.ฯ จำนวน 113 ห้อง พบติดตั้งตามรูปแบบจำนวน 48 ห้อง และไม่เป็นไปตามรูปแบบ จำนวน 65 ห้อง ทั้งนี้คณะกรรมการตรวจการจ้างก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทดสอบวัดค่ามาตรฐานทางอะคูสติก ของผนังกั้นเสียงและผนังดูดซับเสียง พบว่าค่าทดสอบผ่านเกณฑ์มาตรฐาน แต่กรณีดังกล่าวต้องแสวงหาข้อมูล ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเพิ่มเติม จากสำนักกฎหมายและสภาวิศวกร.
