วันที่ 30 พ.ย. สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ล่าสุดระดับน้ำในลำคลองวังมะพร้าว หมู่ 8 ตำบลโพธิ์เสด็จ อำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช จนทำให้พื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนของประชาชนกว่า 50 หลัง ถูกน้ำท่วมอย่างหนัก โดยเฉพาะตลอดแนวริมคลองวังมะพร้าว ระดับน้ำสูงกว่า 1-1.5 เมตร ในจุดดังกล่าวถือว่าหนักสุดใน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และในรอบ 15 วันที่ผ่านมา น้ำท่วมไปแล้วถึง 3 ระลอก (29 พ.ย.) สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ล่าสุดระดับน้ำในลำครองวังมะพร้าว หมู่ 8 ตำบลโพธิ์เสด็จ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช จนทำให้พื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนของประชาชนกว่า 50 หลัง ถูกน้ำท่วมอย่างหนัก โดยเฉพาะตลอดแนวริมคลองวังมะพร้าว ระดับน้ำสูงกว่า 1-1.5 เมตร ในจุดดังกล่าว ถือว่าหนักสุดใน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และในรอบ 15 วันที่ผ่านมา น้ำท่วมไปแล้วถึง 3 ระลอก ทางศูนย์ข่าวนคร 24 ชั่วโมง สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกับชมรมคนรักรถจิ๊ปนครศรีธรรมราช และสโมสรฟุตบอลนครศรี ยูไนเต็ด ได้เดินทางลงสำรวจพื้นที่ประสบภัยในจุดดังกล่าว เพื่อนำถุงยังชีพ น้ำดื่มเข้ามาแจกจ่ายช่วยเหลือผู้ประสบภัย ประมาณ 20 ครัวเรือน ทราบว่ามีอีก 5-6 ครัวเรือน ยังไม่สามารถเข้าไปได้เพราะรถยนต์เข้าไม่ถึง ในขณะที่เรือก็มีขนาดเล็ก สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายได้ ซึ่งจะประสานงานกับหน่วยกู้ภัยประชาร่วมใจ นำเรือสมรรถนะสูง เข้ามาช่วยเหลือเพื่อนำถุงยังชีพ เข้าไปแจกให้กับครอบครัวผู้ประสบภัยที่เหลือต่อไป 

ขณะที่ทางเทศบาลตำบลโพธิ์เสด็จ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้นำข้าวกล่องและน้ำดื่ม เข้าไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ทุกคน ได้รับประทานในมื้อเย็นถึงค่ำที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุเพราะมวลน้ำมหาศาลที่ไหลมาตามลำคลองวังมะพร้าว หรือ “คลองป่ามะพร้าว” ลำคลองกว้างกว่า 10-15 เมตร และในช่วงน้ำไหลหลาก กว้างกว่า 30 เมตร เมื่อไหลมาถึงถนนหลังหมู่บ้านธารริน หมู่ 8 ตำบลโพธิ์เสด็จ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช มีการวางท่อบล็อกเพื่อให้น้ำระบายข้ามถนนแค่ประมาณ 1.5 เมตร และในจุดถนนเทวบุรี ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ห่างจากจุดแรก 350 เมตร ก็มีการวางท่อบล็อกระบายน้ำ 2 ช่อง ช่องละ 2 เมตร รวมกว้างเพียง 4 เมตร ทั้ง 2 จุด น้ำระบายไม่ทัน ไหลเอ่อท่วม

เทศบาลตำบลโพธิ์เสด็จจะจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเฉพาะกิจหมู่ 8 ตำบลโพธิ์เสด็จ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ขึ้น โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่เรือท้องแบนพร้อมวัสดุอุปกรณ์การช่วยเหลือ กำลังเจ้าหน้าที่ประจำตลอด 24 ชั่วโมง หากสถานการณ์รุนแรงก็จะมีการอพยพผู้ประสบภัย ออกมาอยู่ที่วัดโพธิ์เสด็จ หรือที่โรงเรียนวัดโพธิ์เสด็จ โดยใน 2 จุดดังกล่าว กลายเป็นปัญหาที่ทำให้น้ำท่วม ต่อเนื่องซ้ำซากทุกปีเกือบ 30 ปี โดยไม่มีการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ซึ่งในช่วงรัฐบาล คสช. มีการจัดงบประมาณหลายร้อยล้านให้กับจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อทำโครงการต่าง ๆ ในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนทั่วทั้งจังหวัด โดยในการพิจารณาโครงการและงบประมาณให้อยู่ในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชและฝ่ายการเมือง ซึ่งทั้ง 2 จุด ได้ถูกบรรจุและผ่านการประชุมของคณะการในเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว มีเป้าหมายในการดำเนินการขยายวางท่อบล็อกขนาดใหญ่ อย่างน้อยกว้าง 10 เมตรขึ้นไป หรืออาจจะทำเป็นสะพานข้ามแทนการวางท่อบล็อกระบายน้ำ ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณไม่เกิน 10 ล้าน แต่ทั้ง 2 โครงการได้ถูกปัดตกไปอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้ปัญหาในพื้นที่ไม่ได้รับการแก้ไขมาจนถึงปัจจุบัน