เมื่อเวลา 11.10 น. วันที่ 1 ธ.ค. ที่ด่านศุลกากรแม่สาย ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ อ.แม่สาย ติดตามการฟื้นฟูพื้นที่ ภายหลังอุทกภัย ว่า ครั้งที่แล้วที่มาไม่ได้เป็นแบบนี้ และก่อนหน้านี้ได้รับรายงานจากหน่วยงานในพื้นที่มาตลอดอยู่แล้ว ทั้งกระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทย วันนี้มาช่วยกันดูแลและเห็นประชาชน ที่ได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการซอฟต์โลน ของกระทรวงการคลัง หลังจากเกิดอุทกภัยและดินโคลนถล่ม ทำให้สถานการณ์ยิ่งหนัก บางจุดเมื่อน้ำผ่านไป การฟื้นฟูกลับมาได้ยาก มาตรการซอฟต์โลนจึงมีความจำเป็นมาก เพราะทำให้ประชาชนกลับมายืนได้ หลังจากธุรกิจเสียหายไปหมด
เมื่อถามว่า พื้นที่ที่ประสบปัญหาหนัก ทำประชาชนเกิดความกลัวไม่กล้ากลับเข้าไป มีแผนอะไรในเรื่องนี้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จะมีการวางแนวกั้นน้ำและดินโคลนถล่ม ซึ่งดำเนินการแล้ว คาดว่าในปีหน้าจะแล้วเสร็จและสามารถบรรเทาปัญหาได้ และจะมีมาตราการในระยะยาว เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในเรื่องของงบประมาณ เราทำเตรียมไว้ เพราะภัยธรรมชาติห้ามไม่ได้ ส่วนแผนต่อไปจะคุยกับประชาชนให้เกิดความชัดเจนถึงความต้องการของเขา
เมื่อถามต่อว่าในส่วนที่มีการล้ำเข้าไปในแม่น้ำ จะดำเนินการอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ที่จริงไม่เกี่ยวกับเรื่องเส้นแบ่งเขตแดน เพราะเป็นเรื่องของเส้นทางน้ำ ไม่เกี่ยวกับการกั้นพรมแดนระหว่างประเทศ
เมื่อถามอีกว่าประชาชนบางส่วนไม่กล้าตัดสินใจ เพราะไม่แน่ใจว่าหากได้รับเงินเยียวยา จะรื้อถอนหรือซ่อมแซมบ้านที่ติดกับแม่น้ำจะมีการเวนคืนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จะต้องคุยเป็นรายหลังคาเรือน อันดับแรกคือต้องวางเขตกั้นน้ำ กั้นโคลน เมื่อกั้นแล้วตรงไหนที่มีผลกระทบ เราจะต้องคุยเป็นขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ ปัญหาในแม่น้ำสายหากเกิดจากประเทศเพื่อนบ้าน เราจะมีการคุยกัน แต่ไม่ว่าน้ำจะมาจากทางไหนก็ไปทางเขาด้วยเช่นกัน จึงต้องมีความร่วมมือกับหลายประเทศ ซึ่งได้ไปพูดคุยแล้ว.