เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่จากแขวงทางหลวงนราธิวาส ได้เร่งดำเนินการตรวจสอบความเสียหายบริเวณคอสะพานทรุด บริเวณสะพานห้วยจูซิง บ้านแกแม ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เสียหายเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นนั้นพบว่า ดินด้านล่างคอสะพานถูกกระแสน้ำกัดเซาะ จนเป็นเหตุให้คอสะพานทรุด เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก

โดยเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางที่เดินทางจากตัวเมืองนราธิวาส ไปยังอำเภอ ซึ่งระหว่างปิดเส้นทางมีประชาชนส่วนหนึ่งที่ต้องการเดินทางกลับบ้าน หลังอพยพหนีน้ำมานอนบ้านญาติในตัวเมืองนราธิวาส แต่ก็ไม่สามารถเดินทางมุ่งหน้ากลับบ้านในพื้นที่ อ.ระแงะ ได้ทันที ต้องให้ญาติมารอรับระหว่างทาง โดยเจ้าหน้าที่ต้องปิดเส้นทางทั้ง 2 ฝั่งเพื่อความปลอดภัย เพราะหากมีการสัญจรไปมาอีกอาจจะทรุดลงได้อีก และอาจจะเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

ขณะเดียวกันระดับน้ำในพื้นที่เริ่มลดลง ประชาชนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ แต่ก็ยังคงไม่มั่นใจเพราะมีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ จ.นราธิวาส มีการประชาสัมพันธ์ให้เก็บรูปภาพบ้านเรือน และสิ่งของที่เสียหาย ซึ่งประชาชนเองต่างกังวลว่าหากไม่มีรูปแล้วจะได้รับเงินช่วยเหลือหรือไม่

ด้านชาวบ้านซึ่งเป็น 1 ในผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ กล่าวว่า เหตุครั้งนี้น้ำมาไม่เร็วแต่ก็ท่วมบ้าน สร้างความเสียหายเหมือนทุกครั้ง ซึ่งครั้งที่แล้วก็เพิ่งดำเนินการเรื่องเยียวยาเสร็จสิ้น มารอบนี้ทุกคนก็หวังว่าจะได้รับการเยียวยาเหมือนเดิม เพราะเงินที่ได้ไม่มากก็น้อยก็สามารถเยียวยาทุกครอบครัวได้จริง แต่ก็ยังติดที่มีการเน้นย้ำให้ถ่ายรูป อยากจะบอกว่าแค่เอาชีวิตและดูแลคนในครอบครัวให้รอดปลอดภัยก็ลำบาก รวมถึงโทรศัพท์ก็เก็บรักษามิดชิด ยากที่จะถ่ายรูปตอนที่น้ำท่วม กลับเข้าบ้านมาอีกน้ำก็ลดแล้ว ก็พยายามถ่ายเท่าที่ได้

ผู้ได้รับผลกระทบยังกล่าวอีกว่า ในความเป็นจริงส่วนของการช่วยเหลือนั้น อยากให้ดูในภาพรวมเนื่องจากแต่ละพื้นที่ เจ้าหน้าที่ภาครัฐทราบดีว่าท่วมแค่ไหน ประชาชนเดือดร้อนอย่างไร เพราะมีทั้ง อบต. กำนัน ผู้ใหญ่ ที่เป็นตัวแทนภาครัฐ ไม่อยากให้เน้นกับรูปที่ทุกคนต้องถ่ายเพื่อมายืนยันเพื่อขอรับการช่วยเหลือ.