ประเด็นสีสันวันที่ 2 ธ.ค. จากกรณี “นายกฯอิ๊งค์” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ว่า “ไม่ได้ละเลยน้ำท่วมใต้ เพราะสามี ( นายปิฏก สุขสวัสดิ์ ) เป็นคนใต้ ( คนนครศรีธรรมราช )” และเกิดเสียงวิจารณ์ เหน็บแนม ไปถึงขั้นด้อยค่าทางการเมือง นายกฯอิ๊งค์ตอบโต้โดยโพสต์ข้อความผ่านสตอรีอินสตาแกรมส่วนตัว ผ่านบัญชีผู้ใช้ @ingshin21 ข้อความว่า “Your negativity is a reflection of your own reality ความคิดเชิงลบของคุณสะท้อนถึงตัวตนคุณเอง” และโพสต์อีกข้อความว่า “Insecure people put others down to raise themselves up คนที่ไม่มีความมั่นใจ กดคนอื่นให้ต่ำลง เพื่อยกตนเองให้สูงขึ้น”

นายวันชัย สอนศิริ อดีต สว. โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า คนที่ชอบและเชียร์นายกฯ เริ่มไม่สบายใจกับเรื่องที่น่าเป็นห่วงของนายกฯ 2-3 เรื่อง 1.บุคลิกลักษณะการแต่งเนื้อแต่งตัว เสื้อผ้าหน้าผม รองเท้า พูดกันเยอะ นายกฯผู้หญิงต่างกับนายกฯผู้ชาย ควรพิถีพิถันให้เหมาะสม ไม่ควรเป็นขี้ปากใครด้วยเรื่องอย่างนี้ 2.ท่าทีการให้สัมภาษณ์ แสดงออกถึงความรู้ ความสามารถ การเตรียมตัว ที่แล้วมาบ่งบอกถึงความไม่พร้อม ไม่เตรียมตัว มือไม้หน้าตาเลิ่กลั่ก ตื่นเต้น ประหม่า คนเป็นผู้นำไม่ควรเป็นอย่างนี้

“3.เรื่องครอบครัว ดูคุณทักษิณ ชินวัตร สมัยเป็นนายกฯ คุณหญิงอ้อ ( คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ แม่ของ น.ส.แพทองธาร ) และลูกๆปรากฏตัวน้อยมาก ไปเท่าที่จำเป็นในบางโอกาสเท่านั้น นายกฯอิ๊งค์กับสามีและลูกที่หอบกันไปมาในหลายครั้ง เขาวิจารณ์กันเยอะ เรื่องครอบครัวก็เป็นเรื่องครอบครัว หลังบ้านคือหลังบ้าน เราคือนายกของคนไทย เรื่องอย่างนี้ไม่ควรให้ใครมาว่าได้ ทีมงานนายกฯ ควรรีบแก้ไขด่วน แม้เป็นเรื่องเล็กน้อย ก็บานปลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ วุฒิภาวะนายกฯคือหน้าตาประเทศ ขนาดคนชอบคนเชียร์ยังรู้สึกได้ แล้วคนเกลียดจะไม่ขยายความ กลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวหรือ”

ความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่สำคัญ คือ “รอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาล” ซึ่งภูมิใจไทยมักจะมีท่าทีขัดกับเพื่อไทยในเรื่องประชามติหรือแก้รัฐธรรมนูญ ก่อนหน้านี้ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แกนนำเสื้อแดงขอนแก่น ขู่ว่าพรรคเพื่อไทยอาจจะยุบสภาหากพรรคภูมิใจไทยยังงอแงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

“รองอ้วน”ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวว่า ที่ นพ.เชิดชัยพูด ไม่ส่งผลให้เกิดแรงกระเพื่อมในรัฐบาล เป็นความเห็นของ สส.แต่ละคนที่เป็นอิสระ การทำงานของรัฐบาล และของแต่ละพรรคก็ไม่มีปัญหาอะไร ไม่กระทบความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล เพราะผู้ใหญ่แต่ละคนหนักแน่น ไม่เช่นนั้นฟังทุกวันคงต้องยุบสภากันวันละหลายๆรอบ ถ้าจะยุบก็ให้ นพ.เชิดชัยไปยุบ แต่นายกฯ ซึ่งมีอำนาจไม่เคยคิด

ที่โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน โฮเทลส์ และทาวเวอร์ กทม. “หัวหน้าเท้ง”ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงกรณีที่นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอให้ใช้กลไกรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เปิดประชุมร่วมรัฐสภา เพื่ออภิปรายเรื่อง MOU44 ว่า กรณีนี้เป็นปัญหาระหว่างประเทศ ผู้นำฝ่ายค้านสามารถขอเปิดอภิปรายประชุมลับได้ ซึ่งในพรรคร่วมฝ่ายค้านจะหารือกันอีกครั้ง เข้าใจว่า รัฐบาลยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจารายละเอียดบางอย่าง และยังไม่สามารถเปิดเผยได้ การประชุมเปิดเผยอาจไม่เหมาะสม แต่ถ้าฝ่ายค้าน เห็นว่า สามารถใช้อีกช่องทางหนึ่งได้ ที่เป็นอำนาจผู้นำฝ่ายค้านโดยตรง และเป็นการประชุมลับ ก็อาจใช้กลไกนี้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามนายณัฐพงษ์เรื่องที่ นพ.เชิดชัยขู่ยุบสภา ผู้นำฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่า จากที่ผ่านมาว่า หากมีเรื่องที่ต้องลงมติ ทั้งรายงานการนิรโทษกรรม หรือกฎหมายอื่น ๆ บางครั้งพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่ได้มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน หากยุบสภา ปชน.พร้อมทุกสนามอยู่แล้ว หากจะเลือกตั้งใหม่ พรรคก็จะมีนโยบายใหม่มานำเสนอให้กับประชาชนทุกคน และยังฝากว่า กรณีเลือกนายก อบจ.ขอให้ฟังจากฝ่ายสื่อสารพรรคเท่านั้นว่า เราส่งจังหวัดไหนบ้าง

วันเดียวกัน มีข่าวว่า กรมราชทัณฑ์ปล่อยตัวนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกจำคุกในคดี ร่วมกันทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) เมื่อปี 2558 โดยมีโทษจำคุก 48 ปี และเข้าเกณฑ์ได้รับพระราชทานอภัยโทษมาอย่างต่อเนื่อง จนเหลือ 10 ปี และจะพ้นโทษในวันที่ 21 เม.ย.2571 เมื่อนายบุญทรงได้ถูกปล่อยตัว ต้องเข้าโครงการพักการลงโทษ ออกจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แต่ยังอยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติต่อไป เมื่อได้ปล่อยตัว นายบุญทรงเดินทางไปเชียงใหม่ทันที

แหล่งข่าวจากกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพักการลงโทษ กระทรวงยุติธรรม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความเห็นพักการลงโทษนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ วันที่ 2 ธ.ค. เจ้าหน้าที่คุมประพฤติจะใส่กำไลอีเอ็มให้กับนายบุญทรงที่ถูกคุมขังอยู่ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ก่อนปล่อยจากเรือนจำเข้าสู่กระบวนการพักการลงโทษ เหลือโทษที่ต้องติดกำไลอีเอ็ม และคุมประพฤติเป็นเวลา 3 ปี 5 เดือน

ส่วนนายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ ได้รับโทษจำคุกมาแล้ว 7 ปี โทษสุดท้ายเหลือ 8 ปี และได้รับการปล่อยตัวพักโทษตั้งแต่เดือน ก.ย.67 และจะครบกำหนดการคุมประพฤติในวันที่ 25 ส.ค.68 ขณะที่นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง ซึ่งมีโทษจำคุก 48 ปี ไม่ได้รับการพักการลงโทษ ยังคงอยู่ในเรือนจำ เนื่องด้วยยังมีคดีอื่นที่เกี่ยวเนื่องเกี่ยวพัน

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า จากโทษ 10 ปี นายบุญทรงรับโทษจำคุกมาแล้ว 7 ปี จึงเข้าเกณฑ์การพักการลงโทษ ที่ต้องติดกำไล EM นั้น เนื่องด้วยนายบุญทรง อายุน้อยกว่า 70 ปี ระหว่างการพักโทษ บุคคลจะสามารถเขียนทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะรายได้ การขอพระราชทานอภัยโทษไม่ใช่กฎหมายราชทัณฑ์ แต่ยังไม่ทราบว่า นายบุญทรงไปอยู่บ้านที่เชียงใหม่ ซึ่งผู้พักโทษจะไปอยู่ไหนต้องเป็นไปตามเงื่อนไขการพักโทษ

และอีกเรื่องที่น่าสนใจ รอเวลาให้ตัวละครเปิดเผยมากกว่านี้อีกหน่อย อาจเห็นขบวนการเชื่อมโยงใครที่เราคาดไม่ถึง คือ กรณีการบุกรุกพื้นที่ ส.ป.ก. ในพื้นที่จ.นครราชสีมา และ จ.สระบุรี ซึ่งว่ากันว่า คนสนิทของระดับรองนายกฯ คนหนึ่งอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง “บิ๊กเต่า”พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ได้ลงตรวจสอบพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี และพบว่าน่าจะมีการออกเอกสารสิทธิถือครองที่ดิน ส.ป.ก. โดยมิชอบ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีขนาด 50-60 ไร่ ถูกบุกรุกในปี พ.ศ.2558 มีการจับกุมผู้ต้องหาไปแล้ว 4 คน

ต่อมา ก็ออกเอกสารสิทธิคืนที่ดิน ส.ป.ก. ให้แก่จังหวัด จากนั้นก็มีบริษัทภูนับดาวมาทำการเช่าและทำเป็นที่ท่องเที่ยว โดยมีประธานบริษัทกู้ยืมเงินชื่อดังแห่งหนึ่ง เป็นประธานกรรมการผู้มีอำนาจในการบริหารจัดการพื้นที่ เรื่องนี้ทุกหน่วยจะส่งข้อมูลไปที่ ป.ป.ช. ส่วนกองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) จะสืบสวนเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องเอกสารและพื้นที่ที่ได้มาโดยไม่ชอบ ส่วนเรื่องเส้นทางการเงินจะเป็นการดำเนินการของ ปปง.

ในส่วนของเงิน 10 ล้านที่เข้ามาเกี่ยวข้อง บก.ปปป. ได้เพียงข้อมูลมา แต่ในส่วนของรายละเอียดว่า เส้นทางการเงินมีที่มาอย่างไร เชื่อมโยงต่อไปที่ไหน บก.ปปป. ไม่ได้สืบสวน อำนาจทั้งหมดจะอยู่ที่ ป.ป.ช. ก่อนหน้านี้ บก.ปปป. เคยเข้าไปค้นที่ภูนับดาวมา และก็ขอรายละเอียดหลักฐานต่างๆที่เป็นเอกสารสิทธิตัวจริง แต่ทางบริษัทก็ยังไม่ยอมมอบให้ หาก ป.ป.ช.มอบหมายให้ทำคดีนี้ก็พร้อมปฏิบัติหน้าที่

นายฉัตรชัย แก้วบุตตา ประธานกรรมการบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ออกหนังสือชี้แจงว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข่าว เกี่ยวกับ น.ส. ช, นายวิชิต พยุหนาวีชัย เรื่องแกะรอย 5 เส้นเงิน 10 ล้าน บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า นายวิชิต พยุหนาวีชัย ดำรงตำแหน่งผู้บริหารศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 จำกัด (มหาชน) โอนเงินตามที่ถูกกล่าวหา เป็นการโอนเงินเพื่อชำระคืนหุ้นกู้เมื่อครบกำหนดชำระของหุ้นกู้รุ่น SAWAD236C ซึ่งเสนอขายต่อนักลงทุนประเภทสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่จำนวน 1,450 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2564 ครบกำหนดชำระวันที่ 13 มิ.ย.2566 การชำระเงินเป็นไปตามขั้นตอนปกติของการชำระคืนเงินหุ้นกู้