เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคประชาชนขู่เตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล สมัยเปิดประชุมสภาวันที่ 12 ธ.ค. ว่า รัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย พร้อมรับการทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลจากทุกฝ่าย การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพรรคฝ่ายค้านเป็นกระบวนการตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาลวิธีหนึ่ง ไม่มีอะไรที่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยต้องหนักใจหรือต้องเตรียมการรับมืออะไรเป็นพิเศษ ถือเป็นการทำหน้าที่ของแต่ละฝ่ายที่ควรให้ความเคารพ 

นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า การถูกยื่นอภิปรายไม่วางใจไม่ใช่วิกฤติของรัฐบาล แต่ถือเป็นโอกาสอันดีที่รัฐบาลจะได้ใช้โอกาสนี้เป็นเวทีในการแถลงผลงานของรัฐบาลที่หลายเรื่องสะท้อนผ่านโพลหลายสำนักว่าประชาชนพึงพอใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นนโยบายเรือธงเงินดิจิทัลวอลเล็ต  1 หมื่นบาท ฟื้นเศรษฐกิจ การจ่ายเงินฟื้นฟูเยียวยาประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็วมาก

“งานยากของศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลรอบนี้ จึงไม่ได้อยู่ที่รัฐบาล แต่อยู่ที่พรรคร่วมฝ่ายค้านว่าจะหาข้อมูลใดมาอภิปรายรัฐบาลแล้วประชาชนได้ประโยชน์ และไม่ถูกมองว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเพียงพิธีกรรม หรืออภิปรายตามฤดูกาล” นายอนุสรณ์ กล่าว

ด้านนายพัฒนา สัพโส สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลทำงานมาได้แค่ประมาณ 3 เดือน จึงมองว่าเร็วไปสำหรับการทำภารกิจระดับชาติ ทำให้สันนิฐานว่าหากมีการยื่นอภิปรายในระยะเวลาอันใกล้นี้คงมีแต่เรื่องเก่า ๆ จึงอยากให้ติดตามการทำงานของรัฐบาลก่อน ถ้ามีประเด็นอะไรส่อทุจริตเรายินดีให้ตรวจสอบ แต่เราแค่ไม่อยากให้เอาเวลาสภามาเล่นเกมการเมือง และเท่าที่เห็นตนว่ารัฐบาลชุดนี้ทำงานโปร่งใส ตนเป็นกมธ.งบประมาณยิ่งเห็นความชัดเจนความตรงไปตรงมาในการพิจารณางบประมาณ ไม่มีสิ่งไหนที่ส่อทำให้คิดได้ว่าจะมีการทุจริต 

นายพัฒนา กล่าวอีกว่า ในการทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน ขออย่าใช้อคติส่วนตัวนำมาประกอบการอภิปราย เพราะเท่าที่ตนสังเกตในการหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่ผ่านมามีการนำเรื่องส่วนตัวมาโจมตี และนำข้อมูลที่ไม่จริงมาพูด เช่นการทำน้ำประปาดื่มได้ด้วยงบประมาณไม่มากที่ จ.ร้อยเอ็ด ตนมองว่าไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ในฐานะที่เป็นพรรคการเมืองรุ่นใหม่หากอยากทำให้เป็นเหมือนที่โฆษณาไว้ก็ควรนำแต่ข้อเท็จจริง สาระที่เป็นประโยชนต่อบ้านเมืองมาพูด จริงอยู่ในการทำหน้าที่ในระบบรัฐสภา สมาชิกทุกท่านมีสิทธิ แต่การใช้สิทธิขอให้ยึดข้อเท็จจริงในการอภิปราย.