จากเหตุการณ์สาวซิ่งเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู ด้วยความเร็ว พุ่งชน 3 แม่ลูกเสียชีวิต บนสะพานข้ามทางรถไฟบ้านหนองหมุก ต.ตากแดด อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร เมื่อคืนวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา ญาติตั้งสวดอภิธรรมศพจนถึงวันที่ 3 ธ.ค. ก่อนเคลื่อนย้ายทั้ง 3 ศพ ไปเก็บไว้ชั่วคราวที่มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร จนกว่าจะเรียกร้องความยุติธรรมให้ถึงที่สุด ถึงจะนำร่างทั้ง 3 ไปฌาปนกิจศพ
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่มูลนิธิชุมพรการกุศลส่งเคราะห์ 59/1-5 ถนนประชาอุทิศ ต.ท่าตะเภา อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร ได้พูดคุยกับ นายประกฤษณ์ สามีและพ่อของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า วานนี้ซึ่งเป็นวันพ่อ ปกติครอบครัวเราก็จะจัดให้มีการกินเลี้ยงอยู่ภายในบ้าน ไม่ออกไปไหน เพราะมีคุณย่านอนป่วยติดเตียงอยู่ที่บ้าน ก็จะมีความสุขสนุกสนานกันภายในครอบครัว วันนี้ก็เช่นเคย ได้ออกมาจัดชื้ออาหารที่เป็นของโปรดของลูกเมีย เช่น ไก่ทอด ส้มตำ ที่แม่บ้านชอบมาก และเด็กก็ชอบอาหารประเภทนี้กัน แต่ในปีนี้ไม่มีอีกแล้ว เสียงหัวเราะของลูกๆ และเมีย

พ่ออยากจะกอดลูกๆ เหมือนกับทุกๆ ปีที่ผ่านมา ที่มีความสุขกันมาตลอด แต่ในวันนี้มีแต่ความเงียบเหงาหัวใจเหลือเกิน พ่อได้ชื้อของกินที่ลูกชอบมาให้กิน แต่มันผ่านธูป ซึ่งไม่เหมือนทุกปีที่ผ่านมา ใจแหลกสลาย ในวันนี้มาจุดธูปบอกลูกๆ กับเมีย ขอให้อยู่ที่นี่ไปก่อน รอจนกว่าความคืบหน้าทางคดีจะจบสิ้น ก็จะได้มารับกลับไปบ้านและทำพิธีต่างๆ ให้สมบูรณ์ จะทวงความเป็นธรรมให้ลูกๆ และเมียไม่ให้ตายเปล่า จะทำให้ได้
“น้องเก่งและน้องๆ กู้ภัย เล่าถึงมีเหตุการณ์ที่ทำให้ตกใจกันทั้งคืน เพราะหลายๆ คนได้ยินเสียงที่ดังออกมาจากโลงศพของคุณแม่ ร้องไห้และเขย่าโลงศพทั้งคืน และมีเสียงดังเหมือนเคาะต่อๆ กัน จึงได้ขอให้พี่มาจุดธูปบอกดวงวิญญาณของลูกๆ และเมีย ให้รับรู้รับทราบ ในกรณีที่ต้องมาฝากร่างอยู่ที่มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ โดยที่ผ่านมา 10 กว่าปี ก็ยังไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เลย ในคืนแรกได้ยินเสียงดังอยู่ในโลงทั้ง 2 โลง ทั้งคืนเลย มีเสียงร้องไห้ด้วย จนกระทั่งน้องเก่ง เจ้าหน้าที่มูลนิธิ ต้องจุดธูปบอกว่า คุณพ่อนำร่างมาฝากไว้ที่นี่ก่อน เมื่อเสร็จงานแล้วจะมารับกลับบ้าน เท่านั้นทั้ง 2 โลง ก็เงียบไป” นายประกฤษณ์ กล่าว