เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 67 พ.ต.อ.พิทยากร เพชรรัตน์ ผกก.สภ.แม่สอด ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.เอกรัฐ นุชเฉย รอง ผกก.สส.สภ.แม่สอด พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.แม่สอด สนธิกำลัง กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6 และบูรณาการความร่วมมือจากหลายฝ่าย จับกุม ชาวเมียนมา 3 ราย ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงและใช้มีดฟันคู่อริชาวเมียนมา ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 67 เวลาประมาณ 20.46 น. ที่บ้านเลขที่ 484 หมู่ 9 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก

สืบเนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งเป็นชาวเมียนมา มีปัญหาทะเลาะกับ นายดิ้น เมียว วิน ชาติเดียวกัน ก่อนชักชวนกันขี่รถจักรยานยนต์พร้อมอาวุธปืน และมีด มายังบ้านของนายดิ้น ซึ่งขณะนั้นมีภรรยาอยู่ด้วย ก่อนจะใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงเข้าบริเวณใบหน้า และใช้มีดฟันซ้ำตามร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาพยายามจะยิงซ้ำ แต่นายดิ้น แกล้งตาย ทำตัวแน่นิ่ง โดยคิดว่าตายจริงๆ แล้ว จึงได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ภรรยาจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลแม่สอด

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลจังหวัดแม่สอดออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ซึ่งพบว่าได้หลบซ่อนตามจุดดำต่างๆ เพื่อให้พ้นต่อการจับกุม กระทั่งติดตามจับกุมตัวทั้งหมดไว้ได้ ก่อนจะหลบหนีออกนอกประเทศ พร้อมกับนำตัวไปทำแผนยังจุดเกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ อ้างว่าสาเหตุเกิดจากปัญหาการขัดแย้งทะเลาะวิวาทกันไปมาก่อนหน้านี้

เบื้องต้นได้ตั้งข้อหา ร่วมกับกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป พยายามฆ่าผู้อื่น, บุกรุกเคหสถานของผู้อื่นโดยใช้กำลังทุษร้าย โดยมีอาวุธในเวลากลางคืน, ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ ในเคหสถานโดยมีหรือใช้อาวุธ ใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พันการจับกุม, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต

พ.ต.อ.พิทยากร กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการเข้มงวดป้องกันปัญหาการก่อเหตุอาชญากรรมในพื้นที่อยู่แล้ว แต่จากนี้จะเพิ่มการจัดชุดเจ้าหน้าที่สายตรวจ ออกตรวจเข้มงวดในพื้นที่ ทั้งเวลากลางวันและกลางคืน และปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และขอเตือนไปยังบุคคลต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย จะต้องปฏิบัติตนให้อยู่ในกรอบกฎหมายคนเข้าเมือง ห้ามให้มีการรวมตัวเป็นกลุ่มแก๊ง และมีพฤติกรรมท้าทายกฎหมาย หากปรากฏพฤติกรรมดังกล่าวขึ้น จะมีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด และขอให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในความตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน.