จากกรณีทีมข่าว “เดลินิวส์ส่วนกลาง” ตีแผ่ปัญหาโครงการก่อสร้างพัฒนาเมืองกาฬสินธุ์ และเขื่อนป้องกันตลิ่ง 8 โครงการ งบประมาณ 545 ล้านบาท ของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย จัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาให้กับชาวกาฬสินธุ์ และได้ดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบันไม่สามารถก่อสร้างเสร็จแม้แต่โครงการเดียว จนเป็นเหตุให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ยกเลิกโครงการทั้งหมด ในห้วงเดือน พ.ค.-ส.ค. 2567 พร้อมกับขึ้นแบล็กลิสต์ ผู้รับจ้างประกอบด้วย หจก.ประชาพัฒน์ และ หจก.เฮงนำกิจ หมดสิทธิเข้าประมูลและรับงานจากกรมโยธาธิการฯ ทุกโครงการ โดยล่าสุดคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. ได้เข้าติดตามโครงการทั้งหมดพบว่ามีพฤติกรรมส่อทุจริต เอื้อประโยชน์ให้กับผู้รับเหมาตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่ จ.มหาสารคาม ดร.ฉลาด ขามช่วง ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยภายหลังได้นำคณะ กมธ.ป.ป.ช. และที่ปรึกษาฯ เข้าตรวจติดตามปัญหาโครงการซ่อมแซมประตูระบายน้ำห้วยเชียงคำ ต.โนนราษี อ.บรบือ จ.มหาสารคาม สำนักงานชลประทานที่ 6 กรมชลประทาน ถึงกรณีปัญหางานก่อสร้างโครงการพัฒนาเมืองกาฬสินธุ์ และเขื่อนป้องกันตลิ่ง หรือโครงการ 7 ชั่วโคตร ซึ่งได้เข้าตรวจสอบเมื่อวานนี้ โดยยืนยัน คณะ กมธ.ป.ป.ช. จะทำการตรวจสอบเพื่อความเป็นธรรมให้โปร่งใส เนื่องจากมีข้อสงสัยโครงการทั้งหมดอาจส่อไปในทางทุจริต จึงได้มอบหมายให้ นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รอง ป.กมธ.ป.ป.ช. เป็นหัวหน้าทีมในการตรวจสอบ เพื่อเป็นโมเดลในการป้องกันปัญหาทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง การทิ้งงาน การตรวจงานจ้างที่เอื้อประโยชน์ให้กับผู้รับจ้าง
ดร.ฉลาด กล่าวว่า การสุ่มตรวจ 3 โครงการ และการส่งทีมงานเข้าเก็บรายละเอียด ทั้งหมด 8 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชีบ้านหนองหวาย-หนองคล้า ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย งบ 39,525,000 บาท ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ ยกเลิกสัญญา 2 ส.ค. 67 2.โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งแก่งดอนกลาง เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ งบ 39,540,000 บาท ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ ยกเลิกสัญญา 1 ส.ค. 67 3.โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี (ระยะที่ 2) วัดลำชีศรีวนาราม ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย งบ 59,270,000 บาท ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ ยกเลิกสัญญา 7 พ.ค. 67 4.โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี วัดใหม่สามัคคี ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย งบ 59,306,000 บาท ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ ยกเลิกสัญญา 7 พ.ค. 67
5.โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำปาว บริเวณซอยน้ำทิพย์เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ งบ 59,350,000 บาท ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ ยกเลิกสัญญา 3 พ.ค. 67 6.โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมลำน้ำพาน หลังเทศบาลตำบลลำพาน บ้านวังยูง อ.เมืองกาฬสินธุ์ งบ 44,490,000 บาท ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ ยกเลิกสัญญา 7 พ.ค. 67 7.โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลัก เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมเมือง งบ 148,200,000 บาท ผู้รับจ้าง หจก.ประชาพัฒน์ ยกเลิกสัญญา 3 พ.ค. 67 และ8.โครงการก่อสร้างเขื่อนตลิ่งริมลำน้ำปาว หน้าวัดใต้โพธิ์ค้ำ อ.เมืองกาฬสินธุ์ งบ 108,800,000 บาท ผู้รับจ้าง หจก.ประชาพัฒน์ ยกเลิกสัญญา 7 พ.ค. 67
แฉโครงการ 7 ชั่วโคตรถูกทิ้งงาน-จังหวัดเกียร์ว่าง งาบงบไป 13 ล. แถมทำลายธรรมชาติพังยับ
“ถึงแม้กรมโยธาธิการและผังเมือง จะยกเลิกสัญญาไปแล้ว คงจะนิ่งเฉยไม่ได้ แต่ต้องมีคำตอบที่ชัดเจนว่าต่อไปจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากทราบว่า ผู้รับจ้าง ได้ฟ้องร้อง กรมโยธาฯ เช่นกัน การตรวจสอบเบื้องต้นความเห็นของ กมธ.ป.ป.ช. พบข้อสงสัยเกี่ยวกับการบริหารสัญญา ความล่าช้าในการป้องกันปัญหาการก่อสร้างจนเกิดการทิ้งงานและการเบิกจ่าย ตั้งแต่มีการดำเนินโครงการฯ เนื่องจากการทิ้งงานทำให้ประชาชนเสียโอกาสในโครงการ และยังทำให้รัฐสูญเสียงบประมาณและเสียเงินเพิ่ม ที่ผู้บริหารสัญญาต้องเข้ามาร่วมรับผิดชอบด้วย” กมธ.ป.ป.ช. กล่าว
กมธ.ป.ป.ช. กล่าวต่อว่า กรณีดังกล่าวจึงได้แจ้งให้ผู้ตรวจกรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นผู้แทนกรมโยธาฯ ที่เข้าประชุมชี้แจงเมื่อวาน ได้จัดส่งเอกสารชี้แจงเพิ่มเติมมายัง กมธ.ป.ป.ช. เพื่อใช้ในการตรวจสอบทั้ง 8 โครงการ คือ 1.เอกสารการเริ่มต้นสัญญาทั้งหมด 2.เอกสารการขยายเวลาในการก่อสร้างแต่ละโครงการว่าขยายเวลากี่ครั้งในแต่ละครั้งด้วยเหตุผลอะไร 3.เอกสารเหตุผลในการยกเลิกสัญญา 4.เอกการการประเมินค่าความเสียหายระหว่างการทำงานและการทิ้งงาน 5.เอกการเกี่ยวกับการเรียกค่าความเสียหายจากผู้รับจ้าง 6.เอกสารรายละเอียดการเบิกจ่าย 15% ในแต่ละโครงการ ทำอย่างไร มีการคืนเงินในช่วงที่เบิกจ่ายหรือไม่ 7.เอกสารบันทึกประจำวันของ กรรมการผู้ควบคุมงานและคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ต่อการทำงานทั้งหมด 8.เอกสารหรือผลการที่ กรมโยธาธิการฯ ได้ดำเนินการทางปกครองอย่างไรกับ 2 หจก. ที่ทิ้งงานไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเอกสารทางปกครองหรือการฟ้องแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหายคืนให้กับแผ่นดิน
กมธ.ป.ป.ช. กล่าวต่ออีกว่า รายละเอียดการลงตรวจสอบปัญหา 7 ชั่วโคตร จะถูกนำไปสรุปเพื่อขอมติมอบหมายการตรวจสอบให้กับ กมธ.ป.ป.ช. โดยเฉพาะรายละเอียด 8 ข้อพิรุจ กมธ.ป.ป.ช. จะทำหนังสือไปยัง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ให้ชี้แจงที่คาดว่าระยะเวลาในการส่งเอกสารมายัง กมธ.ป.ป.ช. หลังมีมติใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ส่วนการเยียวยาให้กลุ่มแรงงานที่ถูกเบี้ยวค่าแรงหรือการจ้างงาน กมธ.ป.ป.ช. ได้ขอความร่วมมือไปถึง นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.กาฬสินธุ์ ที่ได้เข้าชี้แจงเมื่อวานนี้ เพื่อให้มีการตั้งจุดรับเรื่องราวร้องทุกข์เพื่อประสานเป็นสื่อกลางกับ 2 หจก. เพื่อจ่ายค่าจ้างให้กับกลุ่มแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างต่อแนวทางแก้ปัญหาให้เป็นโมเดลป้องการการทุจริตต่อไป.