อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ได้พูดถึงเรื่องนี้ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “หมอหมู วีระศักดิ์” ซึ่งเปิดผลการศึกษาวิจัยใหม่ล่าสุดว่า “เทียนที่มีกลิ่นหอมและมีสี เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่”

โดยหมอหมู ระบุข้อความว่า “ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การใช้เทียนหอมได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนถึงความเสี่ยงต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากเทียนประเภทนี้ แม้ว่าจะมักใช้เพื่อสร้างบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์ แต่ก็มีการกล่าวกันว่าเทียนเหล่านี้ อาจทำให้คุณภาพอากาศแย่ลงและก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจุดไฟ ส่วนผสมในเทียนหอม โดยเฉพาะสารประกอบทางเคมีที่ปล่อยออกมาระหว่างการเผาไหม้ อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้”

อีกทั้ง “ตามข้อมูลของ National Candle Association of the USA ระบุว่า เทียนพาราฟินเป็นวัสดุที่ใช้ทำเทียนกันอย่างแพร่หลายที่สุดในโลก เมื่อจุดเทียนพาราฟินจะปล่อยสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) เช่น เบนซิน อะเซทัลดีไฮด์ และฟอร์มาลดีไฮด์ สู่บรรยากาศ ซึ่งเป็นสารเคมีที่เชื่อมโยงกับโรคมะเร็ง “อาริฟุล ฮาเกะ” จากมหาวิทยาลัยการแพทย์คุนหมิงในประเทศจีน ชี้ให้เห็นว่าโทลูอีน ซึ่งเป็นสารที่พบในเทียนบางชนิด สามารถทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพที่ร้ายแรงกว่า เช่น อาการวิงเวียนศีรษะและปวดศีรษะ หากสัมผัสเป็นเวลานาน”

โดย “เอมี่ บราวน์” ผู้เชี่ยวชาญจากวิทยาลัยการแพทย์นิวยอร์ก ยอมรับว่าระดับของสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย ในเทียนหอมมีน้อยกว่าในควันบุหรี่หรือสีย้อมบางชนิด อย่างไรก็ตาม การศึกษาวิจัยในปี 2015 พบว่าเทียนหอมบางชนิดสามารถปล่อยสารฟอร์มาลดีไฮด์ได้สูงถึง 2,098 ส่วนต่อพันล้านส่วน ซึ่งถือเป็นความเข้มข้นที่เป็นอันตราย”

นอกจากนี้ “การวิจัยแสดงให้เห็นว่าระดับฟอร์มาลดีไฮด์ตั้งแต่ 0 ถึง 400 ส่วนต่อพันล้านส่วน ถือว่าปลอดภัย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเทียนจะไม่ได้จุดไฟ แต่สารเคมีบางชนิดก็ยังสามารถถูกปล่อยออกมาในอากาศได้ ผู้เชี่ยวชาญยังเน้นย้ำว่าเทียนที่มีกลิ่นหอมและมีสีมีความเสี่ยงสูงกว่าเนื่องจากมีสารเคมีเจือปนเพิ่มเติม เพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เลือกเทียนที่ทำจากส่วนผสมจากธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ เช่น ถั่วเหลืองหรือขี้ผึ้ง แทนพาราฟิน ทางเลือกจากธรรมชาติเหล่านี้ ไม่เพียงแต่ช่วยลดการปล่อยสารเคมีที่เป็นอันตรายเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีที่ปลอดภัยกว่าในการเพลิดเพลินกับสภาพแวดล้อมที่มีกลิ่นหอมโดยไม่กระทบต่อสุขภาพอีกด้วย”

นอกจากนี้ “ยังควรสังเกตว่าผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของเทียนพาราฟินก็เป็นปัญหาเช่นกัน เนื่องจากเทียนพาราฟินสกัดมาจากปิโตรเลียม ทางเลือกจากธรรมชาติ เช่น ถั่วเหลืองและขี้ผึ้งเป็นวัสดุหมุนเวียนและย่อยสลายได้ทางชีวภาพ จึงเป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแทนการใช้เทียนแบบดั้งเดิม”

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทั้งหมดที่หมอหมูนำเสนอ มีการอ้างอิงแหล่งที่มาชัดเจน และได้พยายามอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ แต่บางครั้งอาจมีการโต้แย้งในข้อมูล ซึ่งเป็นเรื่องปกติในแวดวงวิชาการ ดังนั้น จึงขอเรียนทุกท่านว่าโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านบทความของหมอหมู และควรหาข้อมูลเพื่มเติมเพื่อความถูกต้องอีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูล : หมอหมู วีระศักดิ์