การแปรงฟันเป็นหนึ่งในกิจวัตรประจำวันที่สำคัญสำหรับการดูแลสุขภาพร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปากและฟัน ซึ่งมีผลต่อสุขภาพร่างกายส่วนอื่นๆด้วย ดังนั้น เราควรเรียนรู้และให้ความสำคัญกับการแปรงฟันอย่างถูกวิธี

“ทพ.ภูมิพัฒน์ ลีชนะวานิชพันธ์” งานทันตกรรม คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล บอกเล่าเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการแปรงฟัน ว่า สุขภาพช่องปากและฟันที่ดีเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข สามารถรับประทานอาหารอร่อยๆที่ชอบได้ และร่างกายยังได้รับประโยชน์จากสารอาหารเหล่านั้น ที่สำคัญ การมีฟันสวยๆ มีรอยยิ้มที่สดใสยังช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพ และเพิ่มความมั่นใจในการเข้าสังคมอีกด้วย

4 ความเชื่อเรื่องการแปรงฟัน

แม้การแปรงฟันจะเป็นกิจวัตรที่เราทำอยู่ทุกวัน แต่หลายคนอาจมีความเชื่อ หรือวิธีในการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันที่แตกต่างกันไป ความเชื่อเหล่านี้เรื่องไหนจริงหรือเท็จ

ความเชื่อที่ 1 ยิ่งแปรงฟันนานและแรง ยิ่งดี

ความเชื่อนี้ไม่จริง เพราะการแปรงฟันแรง ๆ อาจทำให้ฟันสะอาดได้จริง แต่อาจเป็นสาเหตุของฟันสึกและเหงือกร่นได้ โดยเฉพาะการใช้แปรงสีฟันที่มีขนแข็ง

ความเชื่อที่ 2 ใช้ยาสีฟันอะไรแปรงฟันก็ได้

ความเชื่อนี้ไม่จริง เพราะควรใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์เท่านั้น เนื่องจากฟลูออไรด์สามารถป้องกันฟันผุได้ การใช้ยาสีฟันที่ไม่มีฟลูออไรด์จึงไม่ต่างจากการใช้น้ำเปล่าแปรงฟัน

ความเชื่อที่ 3 แปรงฟันด้วยยาสีฟันน้ำสะอาดกว่ายาสีฟันปกติ

ความเชื่อนี้ไม่จริง เพราะไม่ว่าจะเป็นยาสีฟันน้ำหรือยาสีฟันปกติ หากมีส่วนผสมของฟลูออไรด์และแปรงได้ถูกวิธีก็สะอาดได้เหมือนกัน

ความเชื่อที่ 4 หลังใช้น้ำยาบ้วนปากแล้ว ไม่จำเป็นต้องบ้วนน้ำตาม

ความเชื่อนี้จริง  หลายคนอาจเข้าใจว่าการใช้น้ำยาบ้วนปากแล้วไม่บ้วนน้ำตาม จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ที่จริงแล้ว น้ำยาบ้วนปากมีความปลอดภัย แม้จะตกค้างอยู่ในช่องปากหรือไหลลงคอไปบ้าง ก็ไม่ก่อให้เกิดอันตราย

การแปรงฟันที่ถูกวิธี

โดยปกติ เราควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง คือ ตอนเช้าและก่อนนอน พยายามแปรงให้ถูกต้อง ไม่แปรงขึ้นลงกระแทกเหงือก หรือถูไปมาในแนวนอน เพราะจะทำให้เหงือกร่น คอฟันสึกได้ และระมัดระวังไม่แปรงแรงจนเกินไป

คำแนะนำในการดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน

1. เลือกแปรงสีฟันที่เหมาะสม ควรเลือกแปรงสีฟันที่มีขนนุ่ม เพราะสามารถซอกซอนทำความสะอาดตามซอกฟันได้มีประสิทธิภาพกว่าแปรงที่มีขนแข็ง และไม่ทำร้ายเหงือกและฟันมากจนเกินไป

2. ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ ปัจจุบันยาสีฟันในท้องตลาดมีความหลากหลายมาก ทั้งในแง่รูปแบบและรสชาติ มีทั้งยาสีฟันแบบน้ำและแบบปกติ ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้ตามใจชอบ หากเป็นยาสีฟันที่ได้รับการรับรองมาตรฐานและมีส่วนผสมของฟลูออไรด์

3. ใช้ไหมขัดฟัน ไหมขัดฟันช่วยในการทำความสะอาดซอกฟันที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง และยังช่วยลดการสะสมของหินปูนได้

4.ใช้น้ำยาบ้วนปาก ควรกลั้วน้ำยาให้ทั่วปาก แล้วอมไว้ประมาณ 30-60 วินาที แล้วค่อยบ้วนทิ้ง โดยไม่จำเป็นต้องบ้วนน้ำเปล่าตาม

การมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี มีรอยยิ้มที่มั่นใจสามารถสร้างได้ หากเราใส่ใจดูแลตัวเองด้วยการเลือกแปรงสีฟันที่เหมาะสม หมั่นแปรงฟันให้ถูกวิธี และพบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน