สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ว่า กลุ่มฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (เอชทีเอส) ซึ่งเป็นแกนนำของฝ่ายกบฏซีเรีย ในการโค่นอำนาจประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ออกแถลงการณ์ แต่งตั้งนายโมฮัมเหม็ด อัล-บาเชียร์ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลเปลี่ยนผ่าน โดนมีการระบุชัดเจน ว่าบาเชียร์ จะดำรงตำแหน่งจนถึงวันที่ 1 มี.ค. 2568
ขณะที่บาเชียร์กล่าวระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งรวมถึงรัฐมนตรีหลายคนจากรัฐบาลอัสซาด ว่าถึงเวลาแล้วที่ซีเรียต้องมีช่วงเวลาซึ่ง “มีเสถียรภาพและความสงบสุขอย่างแท้จริง”
Mandate of transitional government will be challenging task for Mohammed al Bashir due to numerous issues Syria is facing. Here's more ???? pic.twitter.com/Tf86n7QwJ7
— TRT World Now (@TRTWorldNow) December 10, 2024
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บาเชียร์ วัย 41 ปี แทบไม่เป็นที่รู้จัก สำหรับชาวซีเรียซึ่งอยู่นอกพื้นที่ยึดครองของเอชทีเอส ที่ส่วนใหญ่คือภูมิภาคทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ครอบคลุมจังหวัดอิดลิบและจังหวัดอเลปโป
Here's more on Mohammed al Bashir, appointed as caretaker Prime Minister of Syria after the fall of the Assad regime ???????? pic.twitter.com/0Hgg3GHvev
— TRT World Now (@TRTWorldNow) December 10, 2024
ก่อนสงครามกลางเมืองในซีเรียปะทุ เมื่อปี 2554 บาเชียร์ เป็นวิศวกรไฟฟ้า และทำงานอยู่ตามโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติหลายแห่ง และเข้าร่วมกับฝ่ายต่อต้านรัฐบาล เมื่อสงครามเปิดฉาก จนกระทั่งได้รับการแต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของเอชทีเอส เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา เพื่อบริหารดินแดนที่อยู่ภายใต้การยึดครอง ในรูปแบบเดียวกับรัฐ โดยมีประชาชนอยู่ในความดูแลมากถึง 4 ล้านคน
อีกด้านหนึ่ง นายเกียร์ พีเดอร์เซน ผู้แทนพิเศษด้านกิจการซีเรียของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวว่า สถานการณ์ในซีเรียยังคงมีความน่าวิตกกังวล จากการที่อิสราเอลยกระดับปฏิบัติการทางทหารในซีเรีย ซึ่งกำลังเผชิญกับภาวะสุญญากาศ จากการที่กองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาล โค่นอำนาจของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ซึ่งผูกขาดการปกครองซีเรียมานาน 2 ทศวรรษ
เกี่ยวกับท่าทีของเอชทีเอส ซึ่งเป็นผู้นำกองกำลังที่โค่นล้มรัฐบาลอัสซาด ผู้แทนพิเศษของยูเอ็นกล่าวว่า “จนถึงตอนนี้” เอชทีเอสและพันธมิตร “ยังคงมีท่าทีเป็นมิตร” กับชาวซีเรีย
ทั้งนี้ องค์กรสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรีย (เอสโอเอชอาร์) รายงานว่า นับตั้งแต่มีการยืนยันว่า อัสซาดและครอบครัวเดินทางออกไปจากซีเรีย หลังกองกำลังฝ่ายต่อต้านยกพลเข้าสู่กรุงดามัสกัสสำเร็จ กองทัพอิสราเอลปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายในซีเรียแล้วมากกว่า 300 ครั้ง.
เครดิตภาพ : AFP