เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่โรงแรมอัศวิน นายแสวง บุญมี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ มีมติขับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ในกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้พรรคพลังประชารัฐยังไม่ได้รายงานเข้ามาที่สำนักงาน กกต. แต่ตนก็เชื่อว่าพรรคจะดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนของกฎหมาย เพราะการขับสส. ออกก็ถือเป็นเรื่องสำคัญของพรรค ซึ่งจากที่ติดตามข่าว ทราบว่ามีการประชุมร่วมกันระหว่างกรรมการบริหารพรรค และ สส. ตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งที่ต้องสังเกตคือองค์ประกอบในการประชุมครบหรือไม่ มติครบ 3 ใน 4 ขององค์ประชุมวันนั้นหรือไม่ หากครบถ้วนก็มีผลตั้งแต่วันประชุมวันที่ 12 ธ.ค.2567 ซึ่งสมาชิกที่ถูกขับออก ก็สามารถเข้าสังกัดพรรคใหม่ได้ทันทีภายใน 30 วัน
นายแสวง กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ การเป็นสมาชิกพรรคนั้น สถานะไม่ได้ขึ้นอยู่กับฐานข้อมูลของพรรค บางครั้งพรรคการเมืองเก่ายังไม่ลบข้อมูล เลขประจำตัวประชาชน 13 หลักออก จึงทำให้ข้อมูลที่จะบันทึกในระบบของพรรคการเมืองใหม่ ไม่สามารถทำได้ เพราะข้อมูลจะซ้อนกัน แต่สามารถเขียนใบสมัครของพรรคใหม่ได้ และมีผลตามกฎหมายที่แนบท้ายเอกสารของใบสมัคร จากนั้น พรรคการเมืองก็จะรายงานเข้ามาที่ กกต. ก่อนที่สำนักงานฯ จะส่งเรื่องต่อไปไปยังสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้มีการจัดทำป้ายและบันทึกข้อมูลต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าในคำร้องยุบพรรคการเมือง ที่อยู่ในความรับผิดชอบ กกต. นายแสวง กล่าวว่า ขณะนี้มีหลายคำร้อง และมีผู้ถูกร้องหลายพรรคการเมือง จึงอยู่ในระหว่างที่คณะกรรมการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน และต้องให้โอกาสทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้องได้ชี้แจง แสดงพยานหลักฐาน ซึ่งในชั้นการสอบสวน ตนไม่ทราบว่าเชิญใครมาให้ข้อมูลบ้าง แต่ก็ได้เร่งรัดให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะไม่มีแรงกดดันจากการเมืองใช่หรือไม่ นายแสวง กล่าวสั้นๆ ว่า “ใครจะมากดดัน กกต.ได้”