เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. พรรคเพื่อไทยนัดรวมตัวสมาชิกพรรค ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง เพื่อขึ้นรถไฟขบวนพิเศษไปสัมมนาที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตามโครงการเสริมศักยภาพ สส. และบุคลากรทางการเมือง ระหว่างวันที่ 13-14 ธ.ค. ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท โดยมีรัฐมนตรี สส. และสมาชิกพรรค เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง “อดีตนายกฯเสี่ยนิด”เศรษฐา ทวีสิน เดินทางมาร่วมงานด้วย ส่วน “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค เดินทางมาพร้อมครอบครัว ส่วน “อดีตนายกฯแม้ว” ทักษิณ ชินวัตร ขึ้นรถไฟที่สถานีบางบำหรุ เพื่อร่วมเป็นวิทยากร

อดีตนายกฯแม้วคุยกับสื่ออย่างเป็นกันเองว่า นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่กลับไทย แต่ได้ไปบ้านตากอากาศปลาโลมาของตนเอง สมัยก่อนนักการเมืองที่ไปหัวหินมักจะไปแวะที่บ้าน เห็นพัฒนาการรถไฟแค่ทาสีใหม่ รถไฟไม่สามารถใช้ความเร็วได้ เนื่องจากสองข้างทางมีชุมชนแออัดอยู่ ดังนั้นในอนาคตต้องมีการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นตึก ให้คนในชุมชนแออัดมีบ้าน แล้วเขาจะมีความฝัน พัฒนาตัวเองได้ นี่คือโครงการบ้านเพื่อคนไทยที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายไปเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.

“รถไฟไทยไม่ค่อยมีเงิน เพราะผู้โดยสารใช้รถเพียงวันละประมาณ 80,000 คน มันน้อยไป ที่การรถไฟไม่พัฒนาเพราะผู้โดยสารน้อย ผู้โดยสารก็ไม่ขึ้นเพราะรถไฟยังไม่พัฒนา และแน่นอนว่าต้องพัฒนาเพราะระบบรางมันดีที่สุด แต่ต้องทำให้ราคาถูกลงและตรงเวลา มีความถี่ในการให้บริการ รวมถึงต้องปลอดภัย”

ผู้สื่อข่าวถามถึงข่าวยิง นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ปราจีนบุรี อดีตนายกฯ กล่าวว่า “ถ้าพรรคแกนนำรัฐบาลกลัวผู้มีอิทธิพลก็แย่แล้ว เราต้องปราบผู้มีอิทธิพลให้เกลี้ยง ดูที่ จ.ปราจีนบุรี เดี๋ยวอิทธิพลก็หมด เกลี้ยงแน่ ถ้าหลายจังหวัดเป็นแบบนี้ตำรวจก็ต้องจัดการ ตำรวจเดี๋ยวนี้ฟิต ไม่ต้องซื้อขายตำแหน่งแล้วทำงานได้เต็มที่ นายกฯกำลังคิดอยู่ว่า กำลังจะตั้งทีมเฉพาะกิจที่นายกฯ คุมเอง” และยังบอกว่า จำนวน สส.อีสานในเลือกตั้งสมัยหน้า เราต้องทำให้ได้เกินร้อย

ในการเสวนา “นายกฯอิ๊งค์” ชื่นชมลูกพรรคว่า เห็นว่ามี สส.หลายคน พัฒนาตัวเองขึ้นมาก ทำให้อยู่ในสายตาของคนทั่วประเทศได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นดาวสภาใหม่ๆ และผลงานในสภา มีผลงานเป็นที่น่าชื่นชมมาก อยากให้ สส.ทุกคนหันหน้าเข้าหากันและเรียนรู้ร่วมกันถ่ายทอดความรู้ที่ดีให้ความรู้ซึ่งกันและกัน เพราะทุกๆวัย มีความรู้คนละจุด ต้องรวมกันและมีพลังรวมกันจะเป็นผลดีที่สุดของพรรค

ขณะที่ “อดีตนายกฯเสี่ยนิด”บอกว่า หลังพ้นจากตำแหน่งก็ไปเลี้ยงหมา ไปทำธุรกิจ 3 เดือนแล้ว “ช่วง 2-3 สัปดาห์นี้ มีการพูดคุยใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมเกี่ยวข้องกับรัฐบาลของเรา ผมอยู่ตรงนี้ก็ทราบว่ารัฐมนตรีของเราทุกคนได้ทำงานอย่างเต็มที่นายกรัฐมนตรีเองก็ได้เสียสละ ต้องช่วยดูแลในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดที่เราช่วยกันสนับสนุนทุกช่องทางโซเชี่ยลมีเดียหรือพูดคุยกับประชาชนถึงนโยบาย หลังแถลงผลงานจะมีเรื่องดีๆ ตามมากอีกมาก ธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) เองก็ตอบรับความร่วมมือที่ดี ดีกว่าสมัยก่อนที่ผมเป็นนายกฯ”

อดีตนายกฯ เสี่ยนิดกล่าวด้วยว่า สนามหญ้าอีกบ้านหนึ่งอาจดูเขียวกว่าบ้านของเรา แต่ใต้หญ้าเขียวๆมีอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า มีหลุมมีอะไรพรางอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ แม้บ้านเราสนามหญ้าเขียวไม่เท่า มีหลุมมีบ่อบ้าง ท่านเห็น เรามาช่วยกันอุดมาช่วยกันปิด มาช่วยกันเอาหญ้ามาเสริมจะดีกว่า สร้างบ้านหลังนี้ให้แข็งแรง ให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น ..ซึ่งเหมือนเป็นการส่งสัญญาณกลายๆ ให้ สส.ว่า “อย่าย้ายพรรค”

และแน่นอนว่าไฮไลท์ก็คืออดีตนายกฯ แม้ว ซึ่งเจ้าตัวกล่าวว่า วันนี้ได้กลับมาเมืองไทย คิดว่า คงจะทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองได้ไม่มากก็น้อย เวลาก็เหลืออีกไม่นาน 75 ปีแล้ว คงเหลืออีกสัก 40 ปี ตนหายไป 17 ปี ยังไงขอเวลาคืนอีก 17 ปี วันนี้พรรคร่วมรัฐบาลส่วนใหญ่เคยอยู่ร่วมกันมาตั้งแต่ไทยรักไทยความสัมพันธ์ควรจะดี แต่บางครั้งบางคนก็ตื่นเต้นกับคนมาร้อง คนจะมาเดินขบวน ซึ่งคนที่จะร้องเรียนตน ร้องเรียนพรรค ถ้าไม่สำเร็จ ก็เตรียมถูกเช็คบิลด้วย

“เชื่อว่าองค์กรอิสระ จะทำหน้าที่ได้อย่างดี เพียงแต่ไปเปิดช่องให้ใครก็ไม่รู้ร้องได้ทุกคน มันควรให้ผู้เสียหายหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องร้องได้เท่านั้น ตอนนี้องค์กรไม่เกี่ยวข้องก็ไปทำงานแบบเฮงซวยก็มี บางคนถูกไล่ออกจากงานตั้งแต่ไอทีวี ก็มาหาเรื่องผม ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรเลย เพราะคนไทยเจ้าคิดเจ้าแค้น อย่างผม 17 ปี มีคนเล่นงานไม่รู้เท่าไร ยังเฉยๆ ยกหูหาบอกจบนะ แต่ถ้าผมเสนอก่อนว่าจบ แต่ดันไม่จบ ก็ไม่เห็นต้องจบ”

และไฮไลท์สำคัญของงานนี้ เมื่ออดีตนายกฯตะเพิดพรรคร่วมกลางงาน ว่า “เมื่อ 2 วันก่อน มีการเอา พ.ร.ก. 2 ฉบับ ( ร่าง พ.ร.ก.ภาษีส่วนเพิ่ม พ.ศ. …. ของกระทรวงการคลัง และ ร่างพ.ร.ก. การแก้ไข พ.ร.บ.การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ เพื่อให้สอดคล้องกับเกณฑ์ขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ : OECD ) เข้าพิจารณา ปรากฏว่า มีพรรคร่วมบ้างพรรคหลบป่วย แบบนี้ไม่ใช่เลือดสุพรรณ อยู่ด้วยกันก็ต้องพูดกัน ไม่อยากอยู่ก็ต้องบอกให้ชัดเจน เราเป็นคนพูดรู้เรื่อง ถ้าอยากอยู่ก็อยู่ ถ้าไม่อยากอยู่ก็ส่งใบลาออกมา ง่ายดี พ.ร.ก.มันคือมาตรการเสาที่ 2 ซึ่งเป็นไปตามกฎเกณฑ์การเก็บภาษี OECD ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับการเก็บภาษีในไทย ดังนั้น ไม่ดีเลย ลูกผู้ชายมาด้วยกันก็ไปด้วยกัน จึงอยากฝากทุกพรรคทำงานร่วมกันง่ายมากคือการตรงไปตรงมา”อดีตนายกฯ กล่าว

เรื่องนี้คงเป็นที่อึงกันมากต่อไป ว่า เป็นการส่งสัญญาณแตกหักกับพรรคไหน รมต.ที่ไม่เข้าร่วมประชุม ครม.พิจารณา พ.ร.ก.เกี่ยวกับภาษี 2 ฉบับ ซึ่งในวันที่ 11 ธ.ค.มีรัฐมนตรีแจ้งลาประชุมคือ 1.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ซึ่งต่อมาได้ร่วมเอาเมื่อประชุมใกล้เสร็จ 2.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน 3.นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ 4.นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย ติดภารกิจเปิดงานในนาม มท.2 ที่ได้แจ้งล่วงหน้าไว้แล้ว 5.นายอัครา พรหมเผ่า รมช. เกษตรและสหกรณ์ 6. นายสุรศักดิ์ พันธุ์เจริญวรกุล รมช. ศึกษาธิการ ลาเพราะภรรยาคลอดบุตร และ 7.นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ จึงเป็นไปได้ทั้งภูมิใจไทยและรวมไทยสร้างชาติ ( รทสช.)

นอกจากนี้ นายทักษิณกล่าวต่อว่า อยากแนะนำหัวหน้าพรรค คืออยากให้ในพรรค แบ่งกลุ่มความสนใจใครสนใจกระทรวงไหน ก็ศึกษาเรื่องราวของกระทรวงนั้นๆ และเวลามีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงไหน กลุ่มนี้ก็ควรจะตอบ ต้องฝึกงานไว้อีกหน่อยได้เป็นรัฐมนตรี ถ้าไม่ฝึกไว้ตอนนี้ อีกหลายรัฐธรรมนูญก็จะทำอะไรไม่เป็น และกล่าวติดตลกว่า “ดูสิไม่มีใคร อาสาเป็นรัฐมนตรีคมนาคมเลยต้องเป็นนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ”

อดีตนายกฯ แนะว่า บิตคอยน์จะมีบทบาทสำคัญมากในอนาคต สิ่งที่น่าติดตามคือ สเตเบิลคอยน์ ที่จะเพิ่มเม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจแทนการออกพันธบัตรซึ่งขาดทุนทุกปี ออกเป็นคอยน์โดยมีบอร์ดของรัฐบาลค้ำประกัน ทำให้มีเงินก็จะไหลเวียนในเศรษฐกิจทำให้เศรษฐกิจโตแน่นอน จีดีพีปีหน้าโต 3.5 % ไม่น่ามีปัญหา ปี 69 โต 4% หากจีดีพีไม่ถึง 5 %ประเทศไทย จะด้อยกว่าประเทศอื่นในอาเซียน เม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจเราถูกดูดออกหมด เพราะว่า ธนาคารพาณิชย์ไม่อยากปล่อยกู้ธุรกิจที่ยังไม่มั่นคง จึงต้องหาเม็ดเงินเข้าสู่ในระบบเศรษฐกิจ

เราต้องลดหนี้สาธารณะโดย 1. ทำจีดีพีให้โต 2. ลดการขาดดุลหรือจัดเก็บภาษีให้เพียงพอ เป็นเรื่องที่พูดง่ายแต่ทำยากทั้งคู่ แต่พรรคเพื่อไทยเราเกิดมาด้วยความสามารถทางเศรษฐกิจ ขณะนี้ค่าไฟฟ้าของเราถือว่าแพงมากที่สุด 4 บาทกว่า วันนี้เรากำลังบอกว่าอยากได้ไฟฟ้าสีเขียว จึงไม่ควรเห็นเลข 4 บาท หรือ 3.99 ต้องเป็น 3 กลางๆ ดังนั้นต้องไปนั่งรีดว่าส่วนไหนไม่จำเป็นที่ไม่ต้องคิดกับประชาชน เพื่อให้ค่าไฟลดลงให้มากที่สุด

อดีตนายกฯ ได้ปลุกการเมืองให้ร้อนฉ่าขึ้นมาอีกครั้ง จับตาพรรคไหนจะถูกเขี่ยออกหากปรับ ครม.