เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยว่า เป็นโอกาสอันดีที่ตนได้มีโอกาสเข้าไปรายงานประจำปีของสสส. ในการประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยตนรายงานว่า ดัชนีความมั่นคงทางสุขภาพของไทย อยู่ที่อันดับ 5 ของโลก แต่มีอายุคาดเฉลี่ยปี 2567 อยู่ที่ 76.56 ปี เป็นอันดับ 78 ของโลก ซึ่งข้อมูลล่าสุดในปี 2565 พบสาเหตุการตายในกลุ่มอายุน้อยและวัยทำงาน 170,000 คน เกิดจากอุบัติเหตุและโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือโรคเอ็นซีดี (NCDs) สสส. สานพลังภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนผลงานเด่น 7 เรื่อง 1.จัดการโรคเอ็นซีดี 2.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 3.ควบคุมยาสูบ 4.ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด 5.สังคมขับขี่ปลอดภัย 6.ส่งเสริมสิ่งแวดล้อม 7.สานพลังเครือข่ายระดับสากล มุ่งลดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ ป้องกันการตายก่อนวัยอันควร 

ซึ่งภายหลังจากที่ตนได้รายงานไปแล้วนั้น ได้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ร่วมอภิปรายและเสนอแนวทางการทำงานเรื่องการสร้างเสริมสุขภาพแก่ สสส. โดยเห็นว่า ภารกิจของสสส.นั้นสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลนการสร้างสังคมสุขภาวะและสร้างระบบภูมิคุ้มกันโรค ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างการตื่นรู้สุขภาวะ การสานพลังวิชาการและเครือข่ายภาคต่างๆ ได้มากกว่า 65% เพื่อเดินหน้าส่งเสริมให้ประชาชนห่างไกลจากโรคเอ็นซีดี ซึ่งรอบปีที่ผ่านมาคนไทยถึง 33 ล้านเคส โดย 1 คนอาจจะเป็นหลายโรค และเสียชีวิต 400,000 คน    

นพ.พงศ์เทพ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีเรื่อง 1.การลดความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพ พัฒนานวัตกรรมที่อยู่อาศัย เช่น โครงการที่อยู่อาศัยคนละครึ่ง, บ้านอิ่มใจ ช่วยคนไร้บ้านเข้าถึงที่อยู่อาศัยราคาถูก และมีบ้านครบทุกคนในปี 2579 ข้อ 2.พัฒนาสุขภาพแรงงานไรเดอร์ 3.สร้างความปลอดภัยทางถนน รณรงค์การสวมหมวกกันน็อก สร้างวินัยจราจร ยกระดับความปลอดภัยของรถรับส่งนักเรียน 4.รับมือภัยคุกคามทางดิจิทัล พัฒนาเครือข่ายเฝ้าระวังข่าวลวงและหลักสูตร “สูงวัยรู้ทันสื่อ” และ 5.ยกระดับเชิงนโยบายและกฎหมาย ผลักดันกฎหมายเพิ่มโทษผู้กระทำผิดซ้ำข้อหาเมาแล้วขับ นำเทคโนโลยีมาช่วยตรวจสอบผู้กระทำผิด ส่งผลให้ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของไทยลดลง จากอันดับ 3 ของโลกในปี 2553 เป็นอันดับ 18 ในปี 2566 จนองค์การอนามัยโลกยกย่องไทยเป็นตัวอย่างที่ดี.