เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการนัดประชุมวุฒิสภา ในวันที่ 17 ธ.ค. ได้กำหนดวาระพิจารณาเรื่องด่วน คือ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่…) พ.ศ. … ซึ่งคณะกรรมาธิการร่วมกันพิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีมติเห็นชอบตามร่างแก้ไขของวุฒิสภา ที่แก้ไขว่าด้วยเกณฑ์ผ่านประชามติเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้ใช้เกณฑ์ผ่าน 2 ชั้น คือ ต้องมีผู้มาใช้สิทธิออกเสียงเป็นจำนวนเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียง และมีจำนวนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิออกเสียงในเรื่องที่จัดทำประชามตินั้น
ทั้งนี้นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. ฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการกิจการสภาฯ กล่าวว่า ในวันดังกล่าว วาระการลงมติร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ จะถือเป็นเรื่องหลัก ดังนั้นจะเปิดให้ สว. ได้อภิปรายและซักถามอย่างเต็มที่ โดยตนฐานะกรรมาธิการร่วมจะเป็นผู้ชี้แจงคำถามและคำอภิปรายของ สว.ด้วย ทั้งนี้ตนได้เตรียมข้อมูลใหม่และรายละเอียดที่จะชี้แจงต่อที่ประชุมแล้ว ทั้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำประชามติ และเรื่องที่เกี่ยวเนื่องคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่หลายฝ่ายกังวลว่าปัญหาของการแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ ที่ใช้หลักเกณฑ์เสียงข้างมาก 2 ชั้น ทำให้ยื้อเวลาการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทั้งนี้ข้อมูลใหม่ที่ว่านั้นจะสนับสนุนต่อหลักเกณฑ์ประชามติเสียงข้างมาก 2 ชั้น
“ประเด็นเห็นต่างระหว่าง สว. เชื่อว่าจะไม่ถึงขั้นขัดแย้ง เพราะความเห็นของฝ่ายเสียงข้างน้อย หรือเสียงข้างมาก ล้วนเป็นการทำหน้าที่ ตามสิทธิที่สามารถแสดงความคิดเห็นได้” นายพิสิษฐ์ กล่าว
เมื่อถามย้ำถึงผลการลงมติเพื่อชี้ขาดบทบัญญัติที่แก้ไข นายพิสิษฐ์ กล่าวว่า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน เพราะดูจาก สว.ที่เป็นกมธ.ร่วม ที่ชัดเจนว่าเป็นเสียงข้างมาก ดังนั้นการโหวตของ สว.ในที่ประชุมวุฒิสภา จะเป็นไปตามนั้น.