เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่กลายเป็นไวรัลอย่างมากอยู่ในขณะนี้ หลังเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 67 มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Kittituch Maitreejit” หรือ พว.กิตติธัช ไมตรีจิตต์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ (โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต) ได้ออกมาเล่านาทีช่วยเหลือผู้โดยสารชาวต่างชาติ ระหว่างที่เจ้าของโพสต์ และ พว.วรรณพร ไมตรีจิตต์ พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ (ผู้เป็นน้องสาว) กำลังเดินทางจากภูเก็ตไปสุวรรณภูมิ ด้วยเที่ยวบิน PG278 ขณะที่รอผู้โดยสารท่านอื่นอยู่นั้น จู่ๆ ผู้โดยสารชาวต่างชาติหมดสติ และล้มลงกับพื้นในเครื่องบิน จึงทำให้ 2 เจ้าหน้าที่ที่พบเห็นเหตุการณ์ รีบเข้าช่วยเหลือทันที งานนี้ทำเอาชาวเน็ตแห่ขอบคุณ และชื่นชมกันเป็นจำนวนมาก

โดยเจ้าของโพสต์ เล่าเหตุการณ์ว่า “เพราะทุกนาทีชีวิตมีค่าเหนือสิ่งอื่นใด วันนี้ระหว่างเดินทางจากภูเก็ตไปสุวรรณภูมิ ด้วยเที่ยวบิน PG278 ขณะรอผู้โดยสารท่านอื่นเข้ามาในเครื่อง มีผู้โดยสารท่านหนึ่งหมดสติ ล้มลงกับพื้นบริเวณทางเข้าเครื่องบิน เราและน้องสาวซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น เห็นแอร์สาวเดินออกไปดูด้วยท่าทีผิดปกติ จึงออกไปดูพบชาวต่างชาติหมดสติอยู่บนพื้น จึงทำการปลุกเรียก ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว แต่ยังคลำชีพจรได้และยังหายใจ ถามประวัติจากเพื่อนที่มาด้วยทราบว่า มีอาการท้องเสีย อาเจียน เพลีย ไม่มีเเรง”

จนกระทั่ง “เราจึงได้ขออุปกรณ์กระเป๋าฉุกเฉินบนเครื่องบิน มาประเมินวัดสัญญาณชีพ และได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ทุกอย่างปกติ สักพักผู้ป่วยเริ่มรู้สึกตัว ถามตอบพอรู้เรื่อง ลุกขึ้นยืนและเดินได้ จึงย้ายผู้ป่วยมายังที่นั่งโดยสาร เราได้พูดคุยกับพนักงานบนเครื่องบิน ทุกอย่างเป็นปกติสามารถดำเนินการต่อไปได้ แอร์จึงสาธิตการใช้อุปกรณ์ฉุกเฉินบนเครื่องบิน นักบินนำเครื่องขึ้น หลังจากนั้นไม่นาน ระหว่างที่เครื่องได้ออกจากสนามบินภูเก็ต พนักงานกำลังแจกอาหารบนเครื่อง มีผู้ป่วยหมดสติอีกรายบนเครื่องบิน ผู้โดยสารข้างๆ เห็นว่าท่าทางจะไม่ดี เลยกดปุ่มเรียกพนักงานบนเครื่องมาช่วยดู แต่ดูเหมือนคนไข้จะอาการแย่ลงเรื่อยๆ”

อีกทั้ง “มีแอร์สาวคนหนึ่งตัดสินใจไปพูดออกลำโพงเพื่อประกาศขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน จากทุกคนบนเครื่องบิน ตามหาคนที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์มาช่วยเหลือ พอประกาศจบระหว่างที่คนในเครื่องกำลังแตกตื่น เราและน้องสาวจึงลุกขึ้นมาจากบริเวณที่นั่งด้านหน้า เดินเข้ามาแสดงตนอีกครั้งกับพนักงาน แล้วรีบตรงมาที่คนไข้ซึ่งนั่งอยู่แถวด้านหลัง และประเมินอาการอย่างละเอียดตามสิ่งที่เราได้เรียนมา น้องสาววิ่งไปขอกระเป๋าฉุกเฉินอีกครั้ง ผู้ป่วยรู้สึกตัวขึ้น เรียกลืมตา คลำชีพจรได้เบา ใบหน้าซีด ท่าทางอิดโรย”

“สอบถามอาการพบว่า ทานอาหารครั้งสุดท้ายเมื่อวาน มีอาการปวดท้อง อาเจียนเป็นน้ำสีเขียวมากกว่า 10 ครั้ง ถ่ายเหลวมากกว่า 5 ครั้ง ได้ทำการประเมินวัดสัญญาณชีพ และได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เปิดเส้นให้สารน้ำ และได้ให้ยาฉีดแก้คลื่นไส้อาเจียน จากนั้นเราและน้องสาวจึงย้ายที่นั่งไปนั่งใกล้ๆผู้ป่วย เพื่อสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด และเขียนบันทึกกระบวนการพยาบาล เอกสารต่างๆ ให้กับสายการบิน กระบวนการทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาไม่นานนัก และผู้ป่วยทั้งสองรายก็มีอาการที่ดีขึ้นตามลำดับ”

นอกจากนี้ “เรา น้องสาว และทีมแอร์สาวบนเครื่องบิน ต่างประสานงานและเร่งให้การช่วยเหลือผู้ป่วย และเตรียมส่งตัวผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาล เพื่อตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากถึงกรุงเทพฯ แล้ว ท่ามกลางสถานการณ์ที่คับขัน เครื่องบินอยู่ในสภาพอากาศแปรปรวน จากการที่ได้พูดคุยกับแอร์สาวบนเครื่องทั้ง 4 ท่าน เหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยมีผู้ป่วยฉุกเฉินพร้อมกันถึง 2 ราย ในเที่ยวบิน”

“คนเราเกิดขึ้นมาเพื่ออยู่ร่วมกันจริงๆ นะ เราต่างเป็นคนสำคัญของกันและกันในบางเวลาจริงๆ หลายๆ คนอาจจะบอกว่า เราต้องเกิดมาเพื่อที่จะทำให้ตัวเองมีความสุข แต่จริงๆ แล้วนอกจากจะดูแลตัวเอง เราอาจจะเกิดมาเพื่อดูแลผู้อื่นด้วยก็ได้นะ ขอบคุณสิ่งที่ครูบาอาจารย์ได้สอนเรามา ประสบการณ์จากการทำงาน สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ทุกเมื่อ ด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์” พว.กิตติธัช กล่าว

อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยชาวเน็ตส่วนใหญ่ต่างบอกว่า “สุดยอดเลยนะคะ, ชนะเลิศ, ขอชื่นชมมากๆ ค่ะ” อีกด้วย..

ขอบคุณข้อมูล : Kittituch Maitreejit