ที่วิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลไม้ไทย เลขที่ 19/6 หมู่ 1 บ้านมอสูง ตำบลวังทอง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร นางสาวสุพรรณี พวงสมบัติ นักวิชาการสรรพสามิตชำนาญการพิเศษ หัวหน้าฝ่ายบริหารการจัดเก็บภาษี สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่กำแพงเพชร พร้อมด้วย นายอรรถพล นาคาพจน์ นักวิชาการสรรพสามิตปฏิบัติการ ได้ออกตรวจเยี่ยม ให้คำแนะนำการทำบัญชีสต๊อกสินค้าพร้อมแนะนำช่องทางการจำหน่ายด้านการตลาด แก่ผู้ผลิตไวน์แดงจากลูกหว้า DE RUNNING โดยมีนางรัตนา รอดพินิช ประธานกลุ่มวิสาหกิจ ชุมชนแปรรูปผลไม้ไทย ไวน์ลูกหว้า ให้การต้อนรับ
นางสุพรรณี พวงสมบัติ กล่าวว่า การมาตรวจเยี่ยมครั้งนี้ เพื่อเป็นการให้คำแนะนำด้านการจัดทำบัญชีเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบข้อกฎหมาย นอกจากนั้นยังมีการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดเก็บวัตถุดิบ ตั้งแต่เริ่มต้นจากกระบวนการผลิต โดยเฉพาะในเรื่องของการเก็บรักษา ความสะอาดที่เป็นไปตามแนวทางของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กำหนด รวมไปถึงระเบียบของกรมโรงงานอุตสาหกรรม เพราะในอนาคตอาจจะมีการพัฒนาเป็นไปตามมาตรฐานโรงงานด้วย อย่างไรก็ตามสำนักงานสรรพสามิตมิใช่จะดูแลแต่ในเรื่องของการจัดเก็บภาษีเพียงอย่างเดียว แต่ยังจะมีแนวทางในการหาแหล่งเงินทุน และให้ข้อมูลทางวิชาการ เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพของวิสาหกิจชุมชนให้ได้มาตรฐานที่เริ่มตั้งแต่กระบวนการผลิต การบรรจุภัณฑ์และการตลาดที่กว้างมากยิ่งขึ้น สำหรับการผลิตผลไม้แปรรูปเป็นไวน์แดงนั้น
นางรัตนา รอดพินิจ ประธานวิสาหกิจชุมชนฯ กล่าวว่า เกิดมาจากแนวความคิดของ สมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลไม้ไทย ที่เล็งเห็นว่าในชุมชนหมู่บ้านมีต้นหว้าอยู่จำนวนมาก และมีลูกสุขร่วงหล่นหากปล่อยทิ้งก็จะเสียหายไม่เกิดประโยชน์ ดังนั้นจึงได้ศึกษาแนวทางในการจัดทำไวน์แดงที่ผลิตจากลูกหว้าขึ้น เพื่อสร้างงานสร้างอาชีพ สร้างรายได้เสริม ให้กับสมาชิก ซึ่งครั้งนี้วิสาหกิจชุมชนฯ ได้ผลิตไวน์แดงที่ใช้ลูกหว้าที่มีอยู่ตามหัวไร่ปลายนา ที่สุกร่วงหล่นตามพื้นดินนำมาสร้างมูลค่าเพิ่ม นำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตไวน์ ซึ่งวิสาหกิจชุมชนเล็งเห็นว่าการทำไวน์แดงเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่าย ในนามวิสาหกิจชุมชนนั้น จะต้องเป็น ผลิตภัณฑ์ สินค้าที่มีคุณภาพ และมีประโยชน์กับผู้บริโภค เช่น ไวน์แดงที่ผลิตนั้นผลิตมาจากลูกหว้า
โดยคุณสมบัติของลูกหว้านั้น ผลสุกของลูกหว้าจะช่วยแก้โรคบิด แก้ท้องเสีย ช่วยต้านอนุมูนอิสระ รับประทานเป็นประจำจะช่วยลดการเกิดมะเร็ง อีกทั้งคุณสมบัติของไวน์แดงนั้น ถ้าดื่มในอัตราที่พอเหมาะ จะมีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะช่วยทำให้หลอดเลือดแข็งแรง ดังนั้นวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลไม้ไทยจึงผลิตไวน์แดงอย่างพิถีพิถัน สะอาดถูกหลักอนามัย ได้มาตรฐาน และมีประโยชน์กับผู้ดื่มซึ่งทางวิสาหกิจชุมชนฯ ได้เริ่มผลิตไวน์ในนามของ DE RUNNING 196 มาตั้งแต่ปี 2564 ปัจจุบันดำเนินการมาแล้วเป็นเวลา 3 ปี โดยได้พัฒนาขึ้นตามลำดับมาตรฐานเป็นไปตามที่กรมสรรพสามิตกำหนดทุกขั้นตอน พร้อมทั้งเตรียมแผนเพิ่มปริมาณการผลิตให้มากขึ้นกว่าที่ผ่านมา และนอกจากนำลูกหว้าผลไม้ตามธรรมชาติมาแปรรูปเป็นไวน์แดงแล้ว ทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ ยังมีแผนที่จะนำลูกหว้ามาแปรรูปเป็นผลไม้อบแห้ง ออกจำหน่ายให้บุคคลทั่วไปและผู้ที่รักสุขภาพในอนาคตอันใกล้นี้อีกด้วย