เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. เวลา 16.45 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางกลับจากการเยือนประเทศมาเลเซียอย่างเป็นทางการ โดยให้สัมภาษณ์กรณีเว็บไซต์สำนักข่าว Free Malaysia Today ของมาเลเซีย รายงานว่า ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซีย แต่งตั้งให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ของไทย เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวในตำแหน่งประธานอาเซียน ที่นายกฯ มาเลเซีย จะเข้ารับตำแหน่งในปี 2568 ว่า ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม ให้เกียรติ นายทักษิณ เป็นที่ปรึกษาของประธานอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ เพราะท่านมีกลุ่มผู้นำทั้งอดีตและปัจจุบันที่ท่านสนิทอยู่และมีการคุยปรึกษากันระหว่างประเทศรวมถึงเรื่องภายในประเทศตัวเองอยู่แล้ว ถือเป็นการช่วยทุกประเทศในอาเซียนให้เกิดการรวมพลังสมองเกิดขึ้นคือว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศในกลุ่มอาเซียน
เมื่อถามว่า การที่นายทักษิณมีบทบาทตรงนี้ จะพัฒนาภูมิภาคของเราอย่างไรได้บ้าง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ต้องได้แน่นอน เพราะจริงๆ แล้วนายทักษิณ เคยเป็นนายกฯ มา 6 ปี และนายทักษิณ สนิทกับ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม ตั้งแต่ตอนนั้น มีการพูดคุยอัปเดตต่อเนื่องเรื่องเศรษฐกิจมาโดยตลอด และมาเลเซียเป็นเพื่อนบ้านของเรามีทั้งเหมือนและแตกต่างก็ช่วยสนับสนุนกันได้ อย่างการเยือนในวันนี้ก็มีเรื่องที่จะสนับสนุนเรื่องเศรษฐกิจ ท่องเที่ยวและเรื่องชายแดน คุยกันได้ในรายละเอียดเยอะ โดยการเยือนครั้งนี้ได้คุยกันในระดับผู้นำได้พูดถึงความช่วยเหลือต่างๆ เต็มที่ การที่นายทักษิณ เป็นที่ปรึกษาคงได้รายละเอียดอีกเยอะ นอกจากนี้ยังมีประเทศอื่นๆ อีกที่เข้ามาเป็นที่ปรึกษาตรงนี้คงได้ช่วยกัน เพราะอยากได้แง่มุมหลายๆ ประเทศมาร่วมกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าการเยือนมาเลเซียครั้งนี้จะส่งผลดีกับสันติสุขชายแดนใต้อย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อันนี้ทำตั้งแต่สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ ว่าจะให้ทางมาเลเซียช่วยสนับสนุนการพูดคุย ซึ่งทำมาโดยตลอด ยังคงมีการประสานเรื่องนี้กันมาต่อเนื่อง
เมื่อถามอีกว่าการพูดคุยสันติสุขรอบใหม่จะเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ที่คุยไว้เราตั้งใจให้เกิดสันติสุขให้เร็วที่สุดในปีนี้ โดยต้นปีหน้ามีการนัดแนะกับนายกฯ มาเลเซีย ว่าจะมาเจอกันช่วงเดือน ก.พ.หรือเดือน มี.ค. ที่ประเทศไทย เพื่อผลักดันเรื่องนี้ต่อ เพราะจะมีขั้นตอนที่ต้องผลักดันระหว่างกัน
เมื่อถามต่อว่า นายกฯ จะนั่งประธานคณะพูดคุยสันติสุขด้วยตัวเองหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า มีการแบ่งทั้งสองอย่าง จริงๆชายแดนมีหน้างานที่ต้องทำเพื่ออัปเดตติดตามงาน แน่นอนว่าต้องเป็นผู้นำทั้งสองประเทศช่วยกัน ผลักดันเรื่องนี้ และแน่นอนว่าทั้งสองประเทศพูดคุยกันว่าเราจะไม่สนับสนุนความรุนแรง อันนี้คือสิ่งที่ยืนยันด้วยกันทั้งคู่.