เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. เวลา 16.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือกับนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ว่า ได้หารือกันถึงการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่าจะมีแนวทางที่จะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ทั้งนี้ ตนรับทราบว่าเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 256 โดยมีหมวด 15/1 ให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) สู่รัฐสภาแล้ว ขณะนี้อยู่ในการพิจารณาว่าจะรับบรรจุหรือไม่ ทั้งนี้ นายพริษฐ์ได้ขอนัดหมายเข้าพบประธานรัฐสภา เพื่อหารือว่าให้ทำประชามติ 2 ครั้งก็เพียงพอ และตนจะเป็นตัวแทนรัฐบาลเข้าไปร่วมหารือดังกล่าวด้วย โดยตนคิดว่าหากทำประชามติ 2 ครั้งได้ จะสามารถทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทันรัฐบาลชุดนี้

นายชูศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ นายพริษฐ์ได้เชิญชวนพรรคเพื่อไทยว่าจะเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเข้าไปใหม่หรือไม่ ที่จริง ทุกคนคงทราบอยู่แล้ว เราเคยเสนอไปแล้วแต่ท้ายที่สุดประธานสภาไม่ได้บรรจุ อีกทั้งได้ชวนพรรครวมรัฐบาลจะเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมประกบด้วยหรือไม่ ตนรับปากแค่ว่าขอหารือให้พรรคก่อนว่ามันเป็นอย่างไร

ด้านนายพริษฐ์ กล่าวว่า พรรคประชาชนได้ยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพื่อให้สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกที่ต้องทำ หากต้องการลดจำนวนการทำประชามติ จาก 3 ครั้งเหลือ 2 ครั้ง ซึ่งเมื่อตนได้ยื่นไปแล้ว ก็มี 2 ด่านที่ต้องฝ่าให้ได้​ ตนมองว่าหากทั้งรัฐบาลและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความร่วมมือมากเท่าใด โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็จะมีมากขึ้น โดยด่านแรกคือทำอย่างไรให้ประธานสภายอมบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าวาระ ซึ่งเมื่อยื่นไปอีกครั้ง โดยภายใน 15 วัน​ หรือ​ภายในวันที่​ 27 ธ.ค. 2567​ ประธานสภาจะต้องมีการหารือกับผู้เสนอ และวินิจฉัยว่าจะบรรจุร่างฯ ฉบับนี้หรือไม่​ หากทำได้การเดินหน้าจัดทำประชามติก็จะสามารถทำได้ ตนจึงมาขอความร่วมมือจากรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือด่านแรก อีกทั้ง ตนได้หารือกับนายพงศ์เทพ​ เทพกาญจนา​ ที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกฯ​ ซึ่งนายพงศ์เทพ​ ก็จะร่วมหารือในครั้งดังกล่าวด้วย​

นายพริษฐ์​ กล่าวอีกว่า​ ตนมองว่า นอกจากร่างฯ ของพรรคประชาชนแล้ว หากมีร่างฯ ของพรรคเพื่อไทยหรือร่างฯ ของครม.เข้ามาประกบ ก็จะทำให้มีน้ำหนักมากขึ้น​ ซึ่งหากผ่านด่านแรกได้แล้ว ก็จะเข้าสู่วาระการพิจารณาของสภาผู้แทน​ราษฎร​ และเชื่อว่ารัฐบาลจะมีบทบาทสำคัญ ต่อ สส.ฝั่งรัฐบาลและสว. เพื่อให้แนวทางดังกล่าวผ่านทั้ง 3 วาระ​ ส่วนการหารือกับประธานสภาจะเกิดขึ้นเมื่อใดนั้น ต้องอยู่ที่ประธานสภาเป็นผู้กำหนด แต่หากไม่มีข้อติดขัดอะไร ร่างก็จะถูกบรรจุทันที​ แต่เนื่องจากเรื่องนี้มีข้อขัดแย้ง จึงคาดว่าจะต้องมีการหารือก่อนบรรจุวาระ

เมื่อถามว่ารัฐบาลมั่นใจใช่หรือไม่ว่าการทำประชามติ 2 ครั้ง จะไม่ขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ นายชูศักดิ์​ กล่าวว่า เดิมมติ ครม.จะให้ทำประชามติ 3 ครั้ง แต่เมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้การทำประชามติ 3 ครั้งคงไม่ทัน​ จึงเกิดความคิดว่าจะทำอย่างไรให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จได้ภายในรัฐบาลชุดนี้ เพราะฉะนั้นอย่าถามว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องของความเห็น​ อย่างไรก็ตามประเด็นอยู่ที่ว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะบรรจุร่างหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นก็จะนำไปสู่การทำประชามติ 2 ครั้งได้

ต่อข้อถามว่าจะต้องมีการทำความเข้าใจกับพรรคร่วมรัฐบาลถึงการทำประชามติ 2 ครั้งหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ใจความหลักอยู่ที่ประธานสภา​ หากบรรจุก็จะเป็นการทำประชามติ 2 ครั้งโดยอัตโนมัติก็จบ