เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า วันนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณากรณีกล่าวหานายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี กับพวก  ในฐานะคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ว่าดำเนินการคัดเลือกรายชื่อเสนอแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่เป็นไปตามกฎหมาย โดยไม่คำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน โดยเฉพาะประสบการณ์ในงานสืบสวน หรืองานป้องกันปราบปราม

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณารายงานการตรวจสอบเบื้องต้นแล้วเห็นว่า การดำเนินการคัดเลือกรายชื่อเสนอแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ   กฎหมายไม่ได้กำหนดให้มีการพิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโส แต่กฎหมายกำหนดไว้แต่เพียงว่าให้คำนึงถึงอาวุโส และความรู้ความสามารถประกอบกัน โดยเฉพาะประสบการณ์ในงานสืบสวนสอบสวนหรืองานป้องกันปราบปราม

เมื่อผู้ถูกร้องที่ 1 กับพวก ได้พิจารณาข้อเท็จจริงและเหตุผลที่ใช้ประกอบในขณะพิจารณาคัดเลือก พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ซึ่งเป็นบุคคลมีคุณสมบัติครบถ้วน และอยู่ในเกณฑ์ที่สมควรได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้นตามนัยมาตรา 77 (1) ให้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.และได้รับฟังความคิดเห็นจาก ก.ตร. ทุกคน และไม่มีพฤติการณ์หรือข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานใดบ่งชี้ได้ว่า มีการสั่งการให้มีการคัดเลือก พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ให้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. การใช้ดุลพินิจของผู้ถูกร้องที่ 1 กับพวก จึงไม่พอที่จะรับฟังได้ว่ามีเจตนาทุจริตเพื่อประโยชน์ของ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล จึงมีมติไม่รับเรื่องกล่าวหาไว้พิจารณา  ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 49 ประกอบระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าด้วยการตรวจสอบและไต่สวน พ.ศ. 2561 ข้อ 45 (1)