เรียกได้ว่ายังคงเป็นประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจเกี่ยวกับดราม่าในรั้วโรงพยาบาลภาครัฐ ที่ขายช้อนคันละ 5 บาท แถมอ้างคนไข้และญาติขโมยช้อนกลับบ้าน งานนี้ทำเอาชาวเน็ตต่างเสียงแตก พร้อมตั้งคำถามทำไมโรงพยาบาลรัฐถึงทำแบบนี้ ทั้งที่แต่ละปีได้งบประมาณไม่น้อยตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2567 เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ก็ได้ออกมาโพสต์เล่าอีกมุมมองหนึ่ง ที่มีบุคลากรในโรงพยาบาลได้ออกมาตีแผ่โดยระบุว่า “อันนี้ ลูกเพจอีกคนคนละโรงพยาบาลกับโพสต์เมื่อวาน คนนี้อยู่ในโรงพยาบาลศูนย์แจ้งมาว่าที่เขาทำงานอยู่ก็เจอปัญหาเคสต่างด้าวที่ไม่มีสิทธิ์การรักษา แล้วมารักษาแบบจ่ายเอง แต่ถึงเวลาเก็บค่ารักษาก็ไม่จ่ายกลับบ้านไป”

“อันนี้เคสเดียวค่ารักษาค้างชำระ 50,000 ไม่รู้จะทวงจากใคร ที่ รพ. นี้ มีแบบนี้เป็นร้อย ๆ เคส บางเคสหลักแสนเลยก็มี และทั่วประเทศก็ประสบปัญหาแบบนี้กันจนมีงบค่ารักษาต่างด้าวที่ไม่สามารถทวงชำระได้ หลายพันล้านบาท”

“มีบุคลากรอีกคนให้เบาะแสมาว่ามีพวกนายหน้าไปติดต่อ คนต่างด้าวที่ไม่ใช่แรงงานในระบบประกันสังคมบอกว่าจะพามารักษาในฝั่งเมืองไทยเก็บค่าหัวคิวคนละหลักพันถึงหลักหมื่น พอมารักษาที่ไทยก็ไม่จ่ายแล้วชิ่งกลับไปเลยแบบนี้ หรือบางเคสก็ไปติดต่อสังคมสงเคราะห์ขอให้เอาเงินกองทุนต่าง ๆ มาช่วยชำระให้ กลายเป็นว่าหมอจะปฏิเสธการรักษาก็ไม่ได้ต้องรักษาตามหลักมนุษยธรรม
แต่เงินไม่เข้ารัฐไม่เข้าใครเลย ไปเข้ากระเป๋านายหน้าอย่างเดียว”

อย่างไรก็ตามเมื่อโพสต์ถูกเผยแพร่ออกไป ด้านชาวเน็ตต่างเข้าไปแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์สนั่น อาทิ
– ควรใช้ระบบจ่ายก่อนค่อยรักษาได้หรือยัง
– ช่องโหว่ มีทุกวงการแหละ และรู้ด้วยไม่ใช่ไม่รู้ ไม่ว่าวงการใหน ก็นั่นหละมนุษย์สอดไส้ตลอดแล้วบอกประชาชน ประชาชนจริง ๆ ไล่กลับดูเคสที่เป็นข่าวก่อนเลย เยอะแยะคนในนั้นแหละตัวดี
– เวลาเราไปเรียนต่อ ตปท. ทำงาน เขาบังคับให้เราทำประกันเอกชนนะคะ ถึงจะต่อวีซ่าได้ ไทยก็ควรบังคับแบบเดียวกัน แล้วถ้าเป็นต่างชาติ จ่ายก่อนเท่านั้นจบ
– ทำไมคนไทยต้องมาแบกด้วย

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : @Drama-addict