ทำเอาโลกออนไลน์ร้อนแรงหนักมากทีเดียว หลังสาว “ใหม่ ดาวิกา” ที่กำลังเดินหน้าทำผลงานใหม่ๆ ด้วยการตอกย้ำกระแสจิ้นสาวสวยกับ “เฟิร์น นพจิรา” ทำให้หลายคนมีทั้งชอบและไม่ชอบ เพราะบางคนมองว่าพยายามเกินไป จนต่อมาทวิตเตอร์หรือ X ของสาวใหม่คล้ายถูกจำกัด ทำให้ไม่สามารถใช้ได้ ซึ่งไม่ทราบด้วยว่ามาจากสาเหตุอะไร จากการที่ถูกว่าหรือไม่และก็มีการตำหนิมาเรื่อยๆ นั้น

อย่าทำเหมือนเป็นเหยื่อ! “เต๋อ ฉันทวิชช์”เจอชาวเน็ตถล่มปมป้อง “ใหม่”ถูกโซเชียลทำร้าย!
ล่าสุดในงานแถลงข่าว MOU เปิด วิทยาลัยทัศนมาตรศาสตร์@ท็อปเจริญ โดยมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ สาวเฟิร์นและหนุ่มฟิล์ม ได้เปิดใจยอมรับว่าเป็นห่วงสภาพจิตใจของสาวใหม่กันมาก หลังจากเจอดราม่าถาโถมไม่หยุด

เฟิร์น ได้เผยว่า สำหรับดราม่าที่เกิดขึ้นก็ทราบค่ะแล้วก็คุยกัน รอบนี้มันไม่ได้โดนหนูแบบตรงๆ เนาะ เราก็มีการให้กำลังใจกัน อย่างที่บอกว่าเรามีผู้จัดการคนเดียวกัน เราก็สนิทกัน ก็จะมีการพูดคุยให้กำลังใจ ตอนแรกหนูก็ไม่รู้ว่าพี่ใหม่มีการปิดแอคเคาท์ไปแปปนึง เอาเป็นว่าหนูว่าไม่มีใครรู้สึกดีหรอกค่ะถ้าเกิดโดนคนมาว่าเยอะๆ หนูก็คงพูดแทนพี่ใหม่ไม่ได้ทั้งหมดเพราะเค้าเป็นคนเจอกับเรื่องนี้โดยตรง แต่ในฐานะที่เราเป็นน้องสาวเขาเราก็มีโอกาสได้พูดคุยและให้กำลังใจกันมากกว่า แล้วหนูมารู้ที่หลังก็เลยถามไปว่าโอเคไหม เป็นยังไงบ้าง ซึ่งเราก็ได้เห็นข้อความในเอ็กซ์ ถามว่ารู้สึกยังไงบ้าง หนูก็พูดได้แค่ว่าหนูก็ไม่ทราบเจตนาของคนพิมพ์ว่าเขาจะต้องการอะไรยังไง หนูก็ไม่รู้เนาะว่าเขาต้องการอะไร แต่ก็สิ่งที่เขาคิดก็เป็นความคิดของเขาที่อาจจะอยากมาให้โดนใครสักคน อันนี้ก็ไม่แน่ใจ แต่ว่ามันก็เป็นสิทธิ์ของเค้าเนาะที่เค้าจะใช้อินเทอร์เน็ตในการวิจารณ์เรื่องต่างๆ แต่มันก็สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบหลายๆ อย่างที่มันเกิดขึ้น สุดท้ายแล้วจะเสพอะไรก็ขอให้มีสติกับการใช้โซเชียล มันก็เป็นเรื่องที่ต่อให้เรารณรงค์ต่อกี่รอบๆ อันนี้พูดกว้างๆ กับสิ่งที่เห็นและรู้สึกกับเรื่องนี้ ต่อให้เรารณรงค์กันกี่รอบอย่าใช้ cyber bully อะไรแบบนี้ เวลาเราพิมพ์อะไรเราต้องคิดถึงใจคนอื่น หนูก็รู้สึกว่าสุดท้ายมันก็กลับมาเป็นลูกเดิมที่หลายๆ คนที่ใช้อินเตอร์เน็ตทำร้ายคนอื่นเหมือนกันส่วนสภาพจิตใจของพี่ใหม่ หนูไม่ได้คุยอะไรขนาดนั้น เพราะหนูมั่นใจว่าเขาเข้มแข็ง คือไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้สึกหรอก พี่ใหม่ก็คงรู้สึกเสียใจอยู่แล้ว เค้าก็ได้ใช้เวลาในการไปพัก ซึ่งหนูก็เชื่อมั่นอยู่แล้วว่าพี่ใหม่เขาจะสามารถกลับมาได้ สำหรับเหตุผลที่ว่า ทำไมเขาถึงมีอคติกับคู่เรา หนูก็ไม่รู้เหมือนกัน มองภายนอกคนอาจจะคิดว่าเรา queerbaiting รึเปล่า ซึ่งจริงๆ คนที่มาตามเฟิร์นกับพี่ใหม่เขารู้อยู่แล้วว่าเราเป็นพี่น้องกัน แล้วในขอบเขตของการที่เราสนิทกันมันก็อยู่ในขอบเขตที่มันพอดีนะคะ แล้วเราก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะมาหลอกแฟนๆ อย่างงานแฟนมีตที่เราจัดขึ้นก็ตามเราก็จัดเพื่อให้แฟนคลับมาเอ็นจอยโมเมนต์ดีๆ ด้วยกัน แล้วใครที่ไปงานในวันนั้นทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามันไม่มีโมเมนต์ที่พยายามเป็นอย่างอื่นไปมากกว่าอย่างนั้น

หากพระพุทธเจ้าโดนนินทาฉันใดเราเป็นมนุษย์เราก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ เอาอย่างนี้อาชีพเรามันเป็นคนที่อยู่ข้างหน้ากล้อง หน้าสื่อ เรารู้อยู่แล้วว่ามันเป็นอาชีพที่ต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่เสมอ มันก็จริงอย่างที่พี่ฟิล์มบอกเราก็มีความคิดคล้ายๆ กันว่าคนที่เขาไม่ชอบเราต่อให้เราทำดีให้ตายยังไงเขาก็เฉยๆ อยู่ดี แต่วันไหนที่เราพลาดเค้าก็พร้อมที่จะเหยียบเราซ้ำอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นหลายๆ ครั้งที่เจออะไรที่มากระทบจิตใจ มันไม่ใช่ว่าเราแข็งแกร่งมากไม่รู้สึกอะไรเลย แต่เราเลือกที่พยายามจะเข้าใจมัน และแคร์คนที่เขารักเรามากกว่า แคร์แฟนคลับที่เขาคอยเป็นห่วงทะนุถนอมเรา ถึงแม้จะมีดราม่าแบบนี้เกิดขึ้น เราก็ยังกล้าที่จะมีโมเมนต์กับพี่ใหม่อยู่ค่ะ เพราะว่าโมเมนต์ที่มันเกิดขึ้นระหว่างหนูกับพี่ใหม่มันไม่ได้มีอะไรที่มันแบบยัดเหยียด หรือมาตั้งใจทำให้มันเกิด ส่วนตัวหนูกับพี่ใหม่เราเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน แล้วการที่เรามีผู้จัดการคนเดียวกันมันทำให้เราทำงานใกล้กัน สนิทกัน แชร์กัน คุยกัน เพราะฉะนั้นก็จะทำให้เห็นเฟิร์นกับพี่ใหม่อยู่บ่อยๆ สุดท้ายแล้วไม่ว่าเราจะทำอะไรมันมีคนที่ทั้งชอบเราและไม่ชอบเราอยู่ดี สิ่งที่เราแสดงออกไปมันต้องอยู่ในขอบเขตที่เรามองว่าไม่ไปทำร้ายใครมากกว่า และสิ่งที่เราทำมันไม่ได้ทำร้ายใครก็อยู่ที่ว่าเขาอยากจะชอบ หรืออยากจะตามหรือไม่ตามมันเป็นสิทธิ์ของเขาอยู่แล้ว แต่มันกลายเป็นว่าดารายุคนี้ใจต้องแข็งแรง มันแปลกนะพี่การที่เราเป็นคนโดนกระทำแต่กลายเป็นว่าเราต้องแข็งแรงเอง ทั้งที่จริงๆ เราควรจะย้อนกลับไป เราอาจจะทำไม่ถูกใจอาจจะผิดพลาดบ้าง เพราะหนูเชื่อว่าหนูเป็นมนุษย์วันนึงหนูก็อาจจะล้ม หนูก็ไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นไหม เพราะว่าเราเป็นมนุษย์ทุกคนมันทำผิดพลาดกันได้ แต่ว่าการที่เราทำผิดพลาดเราเรียนรู้แล้วเราไปต่อรึเปล่า การที่เขาไม่ให้อภัยเรามันไม่สำคัญเท่าเราให้อภัยตัวเองและเดินต่อรึเปล่า เฟิร์นว่าอันนี้สำคัญ สุดท้ายแล้วอินเตอร์เน็ตก็เป็นของใครของมัน มันก็ขึ้นอยู่ที่ว่าคุณอยากใช้อินเตอร์เน็ตแบบไหนแบบสร้างสรรค์ที่ดีเพื่อให้สังคมดีขึ้น น่ารักขึ้น หรือคุณอยากจะใช้มันเพื่อทำร้ายใครซักคนเพียงเพราะความสนุก.

อีกทั้งด้านหนุ่มฟิล์มได้กล่าวว่า “เป็นห่วงใหม่ครับ พอรู้ข่าวมาผมก็รู้สึกว่าในสมัยนี้เราใช้โซเชียลมีเดียจนกลายเป็นศาลเตี้ยไปแล้ว ก็อยากให้นึกถึงใจเขาใจเรา ถ้าเป็นเราโดนเราจะรู้สึกยังไง แล้วคนที่ไม่โดนเองก็พูดไม่ได้เต็มปากหรอกว่ามันจะรู้สึกยังไง หากเวลาที่เจอเรื่องอะไรแบบนี้ ส่วนตัวผมก็พยายามปล่อยผ่านแหละครับ คนที่เขาไม่ชอบต่อให้เราดีแค่ไหนเขาก็ด่าเราเหมือนเดิม ผมไม่ให้ค่ากับคนที่เขาไม่รัก ผมก็จะพูดอีกนิดนึงว่าถ้าสิ่งที่เขาพูดมามันถูก และมันคือความผิดของเรา เราจะรับฟังและแก้ไข แต่ถ้าในเรื่องอารมณ์ผมก็จะไม่ให้ค่ามัน เพราะต่อให้เราดีแค่ไหนเขาก็ด่าเราเหมือนเดิม”

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก film.thanapat , davikah , fernynop