เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 67 ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม และกำลัง ตชด.43 นำโดย พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ต.ธนาคาร อุชณรัศมีสว.กก.6 บก.ป. ภายใต้การอำนวยการขอ งพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ลงพื้นที่ไปยัง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ทำการจับกุม นายเอกชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นเซียนพระ ตามหมายจับของ ศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 911/2566 ลงวันที่ 29 พ.ย. 66 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด “ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้จองพระ แต่ไม่ได้พระตามที่จองไว้ เข้าแจ้งความไว้ในหลายจังหวัด รวม 6 คดี เริ่มจากปี 62 พื้นที่ สภ.สามพราน จ.นครปฐม , ปี 65 สภ.นาโยง จ.ตรัง , ปี 65 สน.สายไหม่ , ปี 66 สภ.คูคต จ.ปทุมธานี , ปี 66 สภ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย และ ปี 66 สภ.เมืองราชบุรี
ภายหลังจับกุมได้ควบคุมตัวไปทำบันทึกจับกุมที่ สภ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา แต่อ้างว่าไม่ตั้งใจจะโกง เนื่องจากช่วงปี 60 ได้เปิดร้านรับจองพระเครื่องอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้มีการเปิดรับจองพระเครื่องของทางวัดต่างๆ ที่จัดสร้างขึ้น ผ่านทางเฟซบุ๊กแบบพรีออร์เดอร์ โดยได้เก็บเงินค่าพระเครื่องและค่าส่งจากลูกค้าก่อน มีลูกค้าประมาณ 6-7 คน สนใจสั่งจองและชำระเงิน จึงได้โอนเงินที่เก็บจากลูกค้าให้กับทีมงานจัดสร้างพระเครื่อง แต่ปรากฏว่าทีมงานจัดสร้างพระเครื่องแจ้งกลับมาว่า วัดที่ได้ติดต่อจัดทำพระเครื่องนั้น ไม่สามารถจัดทำพระเครื่องได้ ทำให้ตนเองไม่สามารถจัดส่งพระเครื่องให้กับลูกค้าที่สั่งจองไว้ได้ ซึ่งได้มีการโอนเงินคืนให้กับลูกค้าไปแล้วจำนวน 2 ราย ส่วนคนที่เหลือต้องรอเงินคืนทางทีมงานผู้สร้างพระเครื่อง ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้เงินคืน และติดต่อไม่ได้ จึงถูกผู้ที่สั่งจองพระไว้หลายรายเข้าแจ้งความดำเนินคดี เพราะคิดว่าหลอกให้จองพระเครื่อง พอเกิดเรื่องตนจึงพาครอบครัวเดินทางกลับมาอยู่ที่บ้านที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา จนถูกตำรวจกองปราบตามกุมไว้ได้.