เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กะทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยความคืบหน้าการเปิดการท่องเที่ยวอุทยานฯ ภูกระดึง ในวันที่ 23 ธ.ค. หลังเกิดเหตุช้างป่าทำร้ายนักท่องเที่ยว ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้สั่งการให้ทุกแหล่งท่องเที่ยวของกรมอุทยานฯ ยกระดับมาตรการด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวตามนโยบายของ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำหรับในส่วนของอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ที่จะเปิดการท่องเที่ยวในวันที่ 23 ธ.ค. นี้ โดยจะเปิดให้บริการเฉพาะเส้นทางเลียบหน้าผาที่ได้รับการประเมินว่ามีความปลอดภัย 100% ส่วนเส้นทางน้ำตกและผานกแอ่นจะยังคงปิดให้บริการจนกว่าจะมีการประเมินความปลอดภัยอีกครั้ง และจะมีการซ้อมแผนเต็มรูปแบบในวันเสาร์-อาทิตย์นี้ โดยได้ประสานกองทัพบกและได้รับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ลำเลียง (MI-17) ยกตัวขนรถตรวจการเคลื่อนที่เร็ว จำนวน 2 คัน เพื่อนำมาใช้ในการตรวจการณ์และเฝ้าระวังช้างป่า

นายอรรถพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้อุทยานแห่งชาติภูกระดึงได้วางแผนรักษาความปลอดภัยไว้อย่างรัดกุม ประกอบด้วย จัดชุดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนและเฝ้าระวังประจำจุดต่างๆ จัดตั้งชุดเคลื่อนที่เร็วผลักดันและเฝ้าระวังช้างป่า พร้อมอุปกรณ์และยานพาหนะในการปฏิบัติภารกิจด้านความปลอดภัย โดยขยายรัศมีการผลักดันเป็น 2 กิโลเมตร จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง จัดทำโป่งดึงดูดช้างเพื่อป้องกันการเข้ามาในพื้นที่ท่องเที่ยว เตรียมแผนเผชิญเหตุฉุกเฉินกรณีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บหรือถูกสัตว์ป่าทำร้าย

นายอรรถพล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้มีการกำหนดมาตรการเพื่อการจัดการขยะรูปแบบใหม่ โดยนำโดรนมาใช้ขนสัมภาระและขยะ  และจะงดวางถังขยะตามเส้นทางเพื่อลดการดึงดูดช้างป่า ถือเป็นการจัดระเบียบเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องขยะ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ขยะที่ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ จะมีการกำจัดตามหลักวิชาการเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และขยะที่ย่อยสลายเองไม่ได้ ต้องขนกลับลงมาทั้งหมด โดยนักท่องเที่ยวและร้านค้าจะต้องรับผิดชอบการจัดการขยะของตนเอง ซึ่งที่ผ่านมามีการรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวนำขยะกลับลงมาด้วยทุกครั้ง และไม่อนุญาตให้นำอาหาร เครื่องดื่มออกนอกร้าน ยกเว้นกรณีใช้ภาชนะส่วนตัวเท่านั้น ด้านความปลอดภัยจากช้างป่า ทางอุทยานฯ จะเพิ่มรถจักรยานยนต์ 20 คัน เพื่อลาดตระเวนป้องกันช้างป่าออกมาบริเวณที่มีนักท่องเที่ยว

นายอรรถพล กล่าวต่อว่า สำหรับขั้นตอนการเข้าท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ได้รับการปรับปรุงให้เป็นระบบมากขึ้น ดังนี้ 1. นักท่องเที่ยวซื้อตั๋วท่องเที่ยว บริเวณด่านตรวจ 1 2. เช็กอินที่ศูนย์นักท่องเที่ยวศรีฐาน พร้อมติดต่อที่พัก ซื้อประกัน และลงทะเบียน จากนั้นเข้ารับฟังการบรรยายความปลอดภัยที่โดมนิทรรศการ (ใช้เวลาประมาณ 5 นาที) โดยจะมีวิดีโอและมีขั้นตอนการปฏิบัติตัว แนะนำให้ความรู้เมื่อพบเห็นช้างป่า และช่องทางในการแจ้งเหตุในกรณีที่ได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้สามารถสอบถามหลังบรรยายเสร็จสิ้นได้ และเข้าร่วมกลุ่ม Line Open Chat เพื่อรับข้อมูลข่าวสารและการแจ้งเตือน โดยนักท่องเที่ยวต้องตั้งชื่อเล่น และระบุ วันเข้าออกอุทยานฯ ถ้าจะมีการเปลี่ยนกลุ่ม จะแจ้งโดยการส่ง QR CODE ไปในกลุ่ม สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะอยู่พักต่อ เจ้าหน้าที่จะแจกบัตรผ่านการรับฟังข้อชี้แจง แนวทาง ดังกล่าว ให้นักท่องเที่ยวก่อนขึ้นภู 3. ลงทะเบียนอาสาสมัครพิทักษ์ภูกระดึงที่ซุ้มโครงการ 4. จัดการเรื่องสัมภาระ (ลูกหาบ) 5. ศึกษาแผนที่เส้นทางและระดับความเสี่ยงที่ศาลาแผนที่ 6. ต้องผ่านการตรวจสอบที่ด่านตรวจ 3 ก่อนขึ้นเขา

อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวต่อว่า เพื่อความปลอดภัย ทางอุทยานฯ ขอความร่วมมือให้นักท่องเที่ยวเดินทางเป็นกลุ่มอย่างน้อย 3 คนขึ้นไป และปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเรื่องการทิ้งขยะและการนำอาหารเครื่องดื่มออกนอกร้าน ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จะประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง นักท่องเที่ยวสามารถติดตามข่าวสารได้จากช่องทางการสื่อสารของอุทยานฯ หรือโทร. 0-4281-0833, 0-4281-0834

“การเตรียมความพร้อมครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกรมอุทยานฯ ในการยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวและการรักษาความปลอดภัย ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ธรรมชาติและสัตว์ป่า เพื่อให้ภูกระดึงยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและปลอดภัยสำหรับทุกคน” อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าว.