เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. นายเมธี  บุญพรหม  ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค  เขต 3 (ภาคเหนือ) จ.ลพบุรี พร้อมด้วย นายศุภกิจ ยอดแก้ว  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มขายและบริการลูกค้า ภาคใต้  บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT พร้อมคณะทำงานด้านสายสื่อสารของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และ  NT ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท อุทัยธานี เพชรบูรณ์และนครสวรรค์  ได้ร่วมประชุมหารือแนวทางการ Cleansing ข้อมูลการพาดสายสื่อสารและการติดตั้งอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมบนเสาไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตลอดจนการพาดสายหรือติดตั้งอุปกรณ์ที่ไม่ถูกกฎหมาย เพื่อให้การดำเนินงานเป็นรูปแบบเดียวกัน ตรวจสอบง่าย ลดสภาวะการพาดสายที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานซึ่งส่งผลกระทบต่อภูมิทัศน์ของชุมชนเมือง  และสภาพแวดล้อมบนเสาไฟฟ้าของ กฟภ. 

นายเมธี  เผยว่า จากการควบรวมกิจการระหว่าง  กสท.โทรคมนาคม และ ทีโอที เพื่อลดการดำเนินงานที่ซ้ำซ้อนกัน และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในงานด้านการสื่อสาร  ซึ่งก่อนหน้าทั้งสองหน่วยงานได้มีการพาดสายสื่อสารและติดตั้งอุปกรณ์โทรคมนาคมบนเสาของ กฟภ. โดยมีการชำระค่าพาดสายเป็นรายปี  เมื่อมีการควบรวมกิจการดังกล่าว พบว่าข้อมูลการพาดสายที่มีอยู่เดิมยังไม่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน  รวมทั้งมีบริษัทผู้ประกอบการโทรคมนาคมบางรายมีการพาดสายสื่อสารไม่เป็นไปตามมาตรฐาน รวมทั้งการพาดสายโดยยังไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากปัจจุบันมีความต้องการใช้งานด้านการสื่อสารการขยายตัวเป็นอย่างมาก ประกอบกับผู้ประกอบกิจการฯ ดำเนินการโดยมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจ ในขณะที่เสาไฟฟ้าไม่สามารถรองรับสายสื่อสารปริมาณมาก และ กฟภ. ไม่สามารถอนุญาตให้พาดสายเพิ่มเติมได้ เป็นเหตุให้ผู้ประกอบกิจการฯ พาดสายโดยไม่ได้รับอนุญาตดังกล่าว ส่งผลให้บนเสาไฟฟ้าในพื้นที่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีสายสื่อสารพาดจนเต็มไปหมด  ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการสื่อสารที่บางครั้งร่วงหล่นบนถนน  เกิดความไม่ปลอดภัย ภูมิทัศน์เมืองและชุมชนเสียหายไม่สวยงาม  เมื่อมีการตรวจพบการพาดสายที่ไม่ได้รับอนุญาต จึงต้องให้รื้อถอนสายสื่อสารออก นอกจากนี้หากผู้ประกอบกิจการฯ ที่กระทำการพาดสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้า ไม่ดำเนินการรื้อถอนหรือขออนุญาตให้ถูกต้อง หรือชำระค่าสินไหมทดแทนให้ครบถ้วนด้วย   

ดังนั้นการประชุมหารือในครั้งนี้ เพื่อมีมติร่วมกันที่จะทำให้ข้อมูลการพาดสายสื่อสารของ NT กับ กฟภ. เป็นรูปแบบเดียวกันและเป็นที่ยอมรับเพื่อให้การเรียกเก็บค่าพาดสายประจำปีเป็นไปด้วยความถูกต้อง รวมทั้งสามารถตรวจสอบข้อมูลการละเมิดพาดสายสื่อสารได้รวดเร็ว โดยการพูดคุยเป็นไปในแนวทางที่ดี  ทั้งนี้ในพื้นที่รับผิดชอบทั้ง 6 จังหวัด พบว่าทั้งเส้นทางหลักและตามถนนซอยต่างๆ มีการพาดสายที่ได้รับอนุญาต 37,153 เส้นทาง และยังไม่ได้รับอนุญาต 54,696 เส้นทาง ซึ่งจะได้มีการร่วมกันตรวจสอบยืนยันข้อมูลให้ถูกต้องตลอดจนขออนุญาตให้ถูกต้องต่อไป  ขณะเดียวกันได้เน้นย้ำให้ทุกพื้นที่มีการตรวจสอบการพาดสายให้เป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาสายสื่อสารกีดขวางเส้นทาง จนอาจเกิดอันตรายกับประชาชนที่สัญจรไปมาตามท้องถนน หากพบปัญหาดังกล่าวให้เร่งแจ้งหน่วยงานเจ้าของสายสื่อสารมาแก้ไขโดยเร็ว.