เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทยลงมติในที่ประชุมสภา เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่..) พ.ศ. … ฉบับคณะกรรมาธิการร่วม ซึ่งให้ใช้เกณฑ์เสียงข้างมาก 2 ชั้น ในการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งสวนทางกับวิปรัฐบาล ว่า เป็นความเห็นของพรรคภูมิใจไทยที่ลงมติอย่างนั้น แต่ภาพรวมของสภา โหวตเป็นอีกอย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้นในเรื่องนี้ตนเข้าใจว่าน่าจะชะลอไว้ 180 วัน และมีการตั้งคณะกรรมาธิการสภาร่วม
เมื่อถามว่าจะต้องพูดคุยกับพรรคภูมิใจไทยซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ เพราะไม่ได้ทำไปในทิศทางเดียวกันหรือ นายประเสริฐ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจกัน ต้องเอาเหตุผลมาพูดคุยกัน เมื่อถามอีกว่าหลังจากนี้ในเรื่องอื่นๆ จะมีปัญหาตามมาหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ตนไม่อยากให้มองอย่างนั้น ที่จริงในสภามีคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรที่จะเป็นคนกำหนดว่าในการประชุมแต่ละครั้งเสียงโหวตของพรรคร่วมรัฐบาลจะไปในทิศทางใด
ผู้สื่อข่าวถามว่าในปี 2568 ที่ฝ่ายค้านจะขอเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลยังมีความเห็นที่แตกต่างกัน จะเป็นปัญหาหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เพราะเป็นคนละประเด็นกัน โดยการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเป็นเรื่องที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องชี้แจงต่อญัตติที่ฝ่ายค้านเสนอมา เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าถึงอย่างไรก็ต้องเกาะกลุ่มช่วยกันไปใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ก็เป็นรัฐบาลเดียวกัน เพราะฉะนั้นการทำงานก็ต้องมีการประสานงานกันอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าท่าทีแข็งกร้าวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือสมาชิกพรรคเพื่อไทยเอง จะทำให้พรรคภูมิใจไทยทำงานด้วยกันยากขึ้นหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่ แม้อาจมีบางครั้งที่ความคิดเห็นไม่ตรงกัน แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด ส่วนมากในสภาก็จะโหวตทิศทางเดียวกัน อาจจะมีบางเรื่องที่ไม่ตรงกันก็เป็นไปได้
ต่อข้อถามว่าหากจะมีการพูดคุยนั้น จะเป็นการพูดคุยในระดับไหน ต้องเป็นนายทักษิณ หรือน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไปพูดคุยเองหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า การโหวตในสภาเป็นเรื่องของสภา ขณะเดียวกัน สภามีประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) อยู่แล้ว ในเรื่องนี้ก็ใช้กลไกที่มีอยู่แล้ว ตนตอบแทนไม่ได้เรื่องนี้ เมื่อกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของสภาแล้ว มันมีขั้นตอนต่างๆ เป็นเรื่องเหตุเรื่องผลที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องมาชี้แจงต่อกัน