เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 ธ.ค. 67 ที่รัฐสภา นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล อดีต สส.พรรคเพื่อไทย และอดีตประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สมัยที่ ร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า ดำรงตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยทนาย แถลงข่าวเอาผิดกับ นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่ออกมาระบุว่า ตนไปช่วยเหลือเกษตรกรที่เป็นเจ้าของไร่ภูนับดาว อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ซึ่งเป็นการใส่ความเท็จให้ตนได้รับความเสียหาย ถูกบุคคลที่รู้จักในหลายวงการ ดูหมิ่นเกลียดชัง โดยในครั้งแรกกล่าวอ้างว่า ตนไปแอบอ้างผู้ใหญ่ไปดำเนินการเข้าข้างเกษตรกรที่ถือสิทธิใน ส.ป.ก.ไร่ภูนับดาว ซึ่งส่วนตัวไม่เคยรู้จักและไม่ได้แอบอ้างผู้ใหญ่คนใด เพื่อดำเนินการให้เกิดประโยชน์แก่เกษตรกรที่เข้ามาร้องทุกข์ อีกทั้งยังมีการเดินสายออกรายการทางสถานีโทรทัศน์และมีการใส่ความอันเป็นเท็จ ยืนยันสิ่งที่มีการไปแอบอ้างว่าตนเองนั้นไปช่วยเหลือเกษตรกรให้มีการทำสัญญาเช่านั้น ไม่เป็นความจริง

นายวิชิต กล่าวว่า ข้อเท็จจริงตนไม่เคยรู้จัก ส.ป.ก.จังหวัดสระบุรี ไม่รู้จักช่างรังวัด และไม่เคยไปลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดิน ที่เป็นอาคารที่จะยกคืนให้ ส.ป.ก. การไปทำสัญญาเช่านั้น ก็ไม่เคยรู้เรื่องที่จะไปร่วมด้วย ไม่เคยลงพื้นที่ไปรังวัดด้วย และปฏิเสธมีส่วนเกี่ยวข้องกับการไปร่วมทำสัญญาเช่าที่ดิน ส.ป.ก. กับเกษตรกร ซึ่งทราบภายหลังว่าเกษตรกรได้คืนให้กับ ส.ป.ก. แล้ว การเช่าจาก ส.ป.ก. ต้องผ่านคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ที่จะพิจารณาร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่ารับคืนแล้วจะให้เช่าหรือไม่

“ถ้าดูเอกสิทธิ์ไร่ภูนับดาวแล้ว เป็นเกษตรกรจริง ส่วนจะเป็นเกษตรกรตัวจริงหรือปลอม บางทีเกษตรกรก็ไม่ต้องยากจนทุกคน บางทีเกษตรกรที่ทำธุรกิจร่ำรวยก็มี เช่น เกษตรกรเลี้ยงวัวฟาร์มโชคชัย ซึ่งผมคลุกคลีกับเกษตรกรมา 40 ปี ดังนั้นอย่าไปดูถูกเกษตรกร” นายวิชิต กล่าว

นายวิชิต กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ นายธนดล ยังพูดในลักษณะดูหมิ่นเหยียดหยาม เปรียบเทียบคล้ายสุนัข ที่เลี้ยงไม่เชื่อง เหมือนสุนัขที่กินข้าวแล้วยังเนรคุณ ดังนั้นตนจึงจำเป็นต้องดำเนินคดีกับนายธนดล ทั้งทางแพ่งและอาญา โดยยืนยันไม่ได้คิดรังแกเด็ก หรือตัดอนาคตของเด็ก.