ทีมข่าวเฉพาะกิจเดลินิวส์ เกาะติดปัญหาโครงการก่อสร้างพัฒนาเมืองกาฬสินธุ์ และเขื่อนป้องกันตลิ่ง 8 โครงการ งบประมาณ 545 ล้านบาท ของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย หรือที่ชาวบ้านประณามว่า ก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ปิดบัญชี ‘รับเหมา 7 ชั่วโคตร’ ประกาศขึ้นแบล็กลิสต์ 2 หจก.ขาใหญ่ต้นปีหน้า
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2567 ทีมข่าวเฉพาะกิจเดลินิวส์ส่วนกลาง รายงานว่า กระแสการตรวจสอบปัญหา 7 ชั่วโคตร โดย ดร.ฉลาด ขามช่วง ปธ.กมธ.ป.ป.ช.ฯ พร้อมคณะ กมธ.ป.ป.ช.ฯ ที่ปรึกษาฯ เลขาฯ ได้สร้างความพึ่งพอใจให้กับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ชื่นชมที่ กมธ.ป.ป.ช.ฯ ให้ความสนใจต่อการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบและเดือดร้อนจากโครงการนี้ แต่ดูเหมือนว่าปัญหานี้คงจะไม่จบลงที่กระบวนการก่อสร้างใหม่ และจะไม่จบลงง่ายอีกต่อไป เนื่องจากมีกระแสข่าวลือว่ามีความพยายามที่จะเอาผิดกลุ่มประชาชน ผู้ใหญ่บ้าน รวมไปถึงพระสงฆ์ ที่ออกมาร้องเรียนให้ตรวจสอบโครงการ 7 ชั่วโคตร ตรงจุดก่อสร้างโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งแม่น้ำชี้ (ระยะที่ 2 ) ซึ่ง พระ ผู้นำชุมชน ชาวบ้าน ได้ออกมาร้องเรียนไว้เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 และเป็นจุดที่ ดร.ฉลาด ขามช่วง ปธ.กมธ.ป.ป.ช.ฯ นำคณะเข้าดูพื้นที่เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา จนไปสู่การประชุม กมธ.ป.ป.ช.ฯ เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.และเร่งการตรวจสอบกันทั้งระบบการทำงานโครงการฯ

นายธนกฤต ระวาดชัย นายก อบต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในวันที่ 18 ธ.ค. ตนได้เข้าไปรายงานปัญหาให้กับ คณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.สภา ยอมรับว่าดีใจที่ได้ส่งต่อปัญหาไปให้ผู้มีอำนาจในการเร่งรัดตรวจสอบและติดตาม แต่เท่าที่ฟังการรายงานจาก กรมโยธาธิการและผังเมือง การดำเนินการก่อสร้างคงต้องใช้เวลาอีกนาน เพราะยังมีปัญหาการฟ้องร้องระหว่างผู้รับจ้างกับผู้บริหารสัญญา ดังนั้นตามที่กรมโยธาฯ อ้างว่าจะสามารถหาผู้รับจ้างเข้ามาได้ในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าคงเป็นเพียงการซื้อเวลา แต่ก็ยอมรับว่าพร้อมที่จะเฝ้ารอคอย แต่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าก็ขอให้ กรมโยธาฯ หรือผู้มีอำนาจใหญ่ในจังหวัดก่อนปีใหม่ช่วยหามาตรการวิธีการเข้ามาซ่อมแซมถนนหนทางในจุดก่อสร้างหรือตลิ่งที่ทรุด โดยเฉพาะที่วัดลำชีศรีวนาราม ต.ลำชี อ.กมลาไสย เพราะสภาพหนักมากแล้ว ทั้งนี้ประชาชนจะติดตามปัญหานี้อย่างใกล้ชิด ทั้งการตรวจสอบโดย สตง.-กรมโยธาฯ-ป.ป.ช. โดยเฉพาะ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ที่ว่าจะทำการประกาศเวียนห้างผู้รับจ้างทิ้งงานทั้ง 2 หจก.นี้ ไม่เกินปลายเดือนมกราคม 2568 ได้จริงหรือไม่

“ต่อคำถามว่าขณะนี้มีข่าวลือว่ามีการข่มขู่พระ-ประชาชน ที่ออกมาร้องเรียน 7 ชั่วโคตร ได้ยินหรือไม่ นายก อบต.เจ้าท่า ตอบว่าเรื่องการข่มขู่พระ-ชาวบ้าน ตนได้ยินจากประชาชนที่บอกต่อกันและกำลังทำการตรวจสอบที่ไปที่มา โดยเฉพาะพระ ได้ยินว่าการที่พระออกมาร้องทุกข์ร่วมกับชาวบ้าน พระมาเกี่ยวอะไรและว่าให้มีการตรวจสอบวินัยสงฆ์ ซึ่งหากเป็นความจริง ก็คงบอกได้แค่เพียงว่า บ้านเรากาฬสินธุ์นั้น ต่อไปคงจะอยู่กันลำบากแล้ว ประชาชนไม่มีที่พึ่งพิง ก็ได้แต่ขอให้นายกรัฐมนตรี ”อิ๊งค์“ สั่งการปลัดกระทรวงมหาดไทย เข้ามาช่วยพี่น้องประชาชนด้วย“ นายธนกฤต กล่าวในที่สุด

ด้านแหล่งข่าวแจ้งว่า มีความพยายามเอาผิดกับผู้นำชุมชน ประชาชน และพระ ที่ออกมาร้องเรียนให้ตรวจสอบปัญหา 7 ชั่วโคตร เป็นกระแสข่าวที่สร้างความวิตกหวาดกลัวให้กับประชาชน ชาวบ้านเจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ที่เชื่อว่าสาเหตุจะเกิดขึ้น ในช่วงวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พระ-ชาวบ้าน ผู้ใหญ่บ้าน ออกมาเรียกร้องให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัด นำเครื่องจักรเข้ามาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้กับทางวัด ถนนหมู่บ้าน เนื่องจากสภาพตลิ่งทรุดตัวจากการกัดกร่อนของแม่น้ำชี จนทำให้อาคาร พระพุทธรูปจะไหลตกน้ำแล้ว และพระก็ต้องย้ายไปจำวัดห่างออกไปไกล ข้อเท็จจริงการร้องทุกข์ต้องการเพียงให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้ามาดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน หรือเร่งรัดแก้ไขให้ผู้รับเหมาเข้ามาทำงานให้เสร็จ เนื่องจากคนกาฬสินธุ์ ใครๆ ก็รู้ว่า ทั้ง 2 หจก.นี้เป็นขาใหญ่ในกาฬสินธุ์ มีความสัมพันธ์กับผู้บริหารจังหวัดบางคน นักการเมืองระดับชาติ มีเส้นสายใหญ่โตในหลายกระทรวง ทบวง กรม โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง ทำให้ได้งานก่อสร้างเป็นจำนวนมาก

กรณีการก่อสร้างไม่เสร็จจึงเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมาย เพราะคนกาฬสินธุ์เชื่อว่าหากทำจริงด้วยศักยภาพ จะต้องก่อสร้างได้แน่นอน อีกทั้ง หากผู้ใหญ่ในจังหวัดกาฬสินธุ์ สนใจเข้ามาช่วยประคับประคอง ลงพื้นที่ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน ให้มีการจัดวางเส้นทางให้สะดวกสบาย ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ทำให้ประชาชนมีความสุข ปัญหาต่างๆ คงจะได้รับการแก้ไขไปในทางที่ดี แต่นี่กลับไม่ได้ให้ความสนใจในปัญหาของประชาชน การที่จะเอาผิดพระ ทางวินัยสงฆ์ ว่าพระมาร้องเรียนได้อย่างไรนั้น ยังรวมถึงผู้นำท้องถิ่น-พื้นที่ ที่ออกมาร้องเรียน ถือเป็นการใช้อำนาจไม่ถูกต้อง หากเป็นเช่นนี้ปัญหาที่นอกจากจะเป็นเรื่องของรับเหมา 7 ชั่วโคตร ก็คงจะขยายวงกว้างกลายเป็นความเกลียดชังกันระหว่างผู้ได้รับความเดือดร้อนกับผู้มีอำนาจในจังหวัด แทนที่จะต้องรีบเร่งเข้ามาดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนให้มีความสุข ในทางกลับกันการร้องเรียนเพื่อความยุติธรรมต่อสังคม งบประมาณแผ่นดิน ที่ได้รับความเสียหายจากปัญหาทิ้งงาน 7 ชั่วโคตร กลายเป็นยาพิษที่หวนกลับมากลั่นแกล้งประชาชน แหล่งข่าวกล่าวในที่สุด