เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์กรณี 4 ลูกเรือประมงไทย ถูกทหารเมียนมาจับกุมตัวอยู่ขณะนี้ ว่า เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่ต้องยอมรับว่าเกินกว่าเหตุ ส่วนพื้นที่จะทับซ้อนหรือเรือประมงรุกล้ำน่านน้ำหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องตรวจสอบ แต่สิ่งที่ปฏิเสธความจริงไม่ได้ คือ ทหารเรือของประเทศเมียนมา ได้ยิงมาที่เรือประมงไทย โดยหวังผลที่จะเอาชีวิตของลูกเรือ แต่โชคดีที่ไม่มีความเสียหายไปมากกว่านี้
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า การที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ แต่สุดท้ายประเทศไทยกลับไม่มีการประท้วงไปยังรัฐบาลเมียนมา เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ จึงอยากใช้โอกาสนี้ พูดไปถึงรัฐบาลอีกครั้งว่ารัฐบาลต้องแสดงท่าทีที่เข้มแข็งมากกว่านี้ การปล่อยให้ประเทศเพื่อนบ้านนำเรือรบมายิงเรือประมงคนไทย เป็นสิ่งที่ไม่สามารถรับได้ รัฐบาลมีความจำเป็นต้องแสดงท่าทีอย่างจริงจัง เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าสามารถทำมาหากินได้อย่างปลอดภัย
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยังต้องรับผิดชอบต่อคำพูดของตัวเอง เพราะได้หลอกลวงพี่น้องคนไทยว่าได้มีการประท้วงไปแล้วตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แรก ๆ จากข้อมูลที่ได้รับจากหน่วยงานที่เข้ามาชี้แจงในกรรมาธิการความมั่นคงฯ ชัดเจนว่ายังไม่มีการประท้วง เป็นเพียงการแสดงความกังวลเท่านั้น
“หมายความว่าข้อมูลที่นายภูมิธรรม ที่พูดต่อสื่อมวลชนนั้นเป็นความเท็จ สิ่งที่เราอยากจะรู้มากกว่านั้นก็คือ คนไทย 4 คน จะได้กลับเมื่อไร จากที่บอกว่าจะได้กลับก่อนปีใหม่ และบอกว่าใกล้แล้วนั้น เรายังต้องการความชัดเจนมากกว่านั้น หากดูตามความเป็นจริงแล้ว หากจำได้มีข่าวออกมาว่า จะมีการปล่อยตัวออกมาตั้งแต่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มี ตนจึงอยากใช้โอกาสนี้เรียกร้องไปยังรัฐบาล ว่าทั้ง 4 คนจะต้องได้กลับคืนสู่มาตุภูมิประเทศไทยก่อนปีใหม่ ตนอยากเห็นคนเหล่านี้ได้กลับมาฉลองปีใหม่กับครอบครัวเหมือนกับคนไทยคนอื่น ตนไม่อยากให้รัฐบาลนิ่งเฉย และอย่าปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านไป” นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลบอกมาโดยตลอดว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลทหารเมียนมา มีชนชั้นนำของเมียนมามาอยู่ในประเทศไทย ลูกชายลูกสาวของผู้นำเผด็จการทหารเมียนมา ก็มีคอนโดฯ อยู่ในประเทศไทย ซึ่งมีขนาดนี้ประเทศไทยได้เอื้อให้กับชนชั้นนำของเมียนมาขนาดนี้ แต่รัฐบาลกลับจำยอมรับกับสิ่งที่ทหารเมียนมากำหนดอยู่ในขณะนี้
ทั้งนี้ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนต้องการให้รัฐบาลไทย พูดคุยกับทางรัฐบาลทหารเมียนมา ให้มีน้ำหนักมากกว่านี้ จนทำให้เกิดการปล่อยตัวลูกเรือทั้ง 4 คน ซึ่งเป็นสาระสำคัญที่รัฐบาลไทยไม่ควรนิ่งเฉย ส่วนในชั้นกรรมาธิการความมั่นคงฯ หลังจากนี้จะมีกลไกอะไรในการแก้ปัญหานี้หรือไม่นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ทางกรรมาธิการได้ให้ข้อสังเกตและคำแนะนำกับรัฐบาลไปหมดแล้ว เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อวานทางพรรคประชาชนเองก็พยายามตั้งกระทู้ถามในเรื่องนี้ แต่สุดท้ายสิ่งที่รัฐบาลทำคือไม่มาตอบคำถาม และไม่มีรัฐมนตรีคนไหนว่างมาตอบคำถาม ทั้งที่เป็นเรื่องที่คนไทยให้ความสนใจ ว่าทำไมประเทศไทย ถึงอ่อนแอในการต่อรองระหว่างประเทศ
“นี่คือสถานการณ์ที่เกิดขึ้น คุณไม่ได้ให้ความสำคัญกับระบบสภาเท่านั้น แต่คุณไม่ได้ให้ความสำคัญกับพี่น้องประชาชนชาวไทย ที่รอฟังว่าตกลงแล้วรัฐบาล จะให้ความชัดเจนเมื่อไร ตนเข้าใจดีว่า การเจรจาพูดคุยนั้นไม่ง่าย แต่สิ่งที่ประชาชนอยากรู้มากที่สุดคือคุณได้พยายามแล้ว และหากคุณบอกว่าได้พยายามแล้ว จะต้องสำแดงให้ประชาชนได้เห็น ว่าทำอะไรไปแล้วบ้าง ยื่นคำขาดไปยังรัฐบาล ต้องการให้คนไทยทั้ง 4 คน กลับประเทศไทยก่อนปีใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราอยากเห็นมากที่สุด” นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า หลังจากปีใหม่ หากเรื่องนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ก็จะมีการพิจารณาต่อไปอย่างแน่นอน รวมไปถึงเรื่องว้าแดง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่ได้ขายไฟฟ้าให้กับฟ้าแดงด้วยเช่นกัน เพราะเป็นปัญหาความมั่นคงและถูกทิ้งเป็นเวลานาน.