จากกรณีเหตุการณ์ นายเจริญ (สงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี ใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตที่ต้นไม้ ทางเข้าเทศบาลตำบลลำลูกกา โดยทิ้งจดหมายถึงลูกหนี้ที่ทำงานในเทศบาล ทำนองว่า เป็นลูกหนี้แล้วไม่ยอมใช้หนี้ ทั้งที่กินหรูอยู่สบาย จนนายเจริญ ต้องได้รับความลำบาก เพราะทวงถามหนี้จากลูกหนี้ แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมจ่าย จึงไปผูกคอประชดชีวิตดังกล่าว เหตุเกิดขึ้นเมื่อค่ำวันที่ 18 ธ.ค. 67 ที่ผ่านมา
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. นายกิติเดช ลานทอง นายกเทศมนตรีตำบลลำลูกกา กล่าวว่า นายเจริญ เป็นพนักงานของเทศบาลตําบลลำลูกกา แต่ได้เกษียณมา 5-6 ปี ตั้งแต่ตนยังไม่เป็นนายก จนกระทั่งลุงมาผูกคอ และลุงได้มีจดหมายมาให้ตนช่วยตามทวงหนี้ให้ด้วย ตนจึงได้เรียกประชุม โดยเรียกผู้ที่มีชื่อในหนังสือดังกล่าวที่มีการยืมเงินนายเจริญ มาทำการสอบถาม ว่ายืมจริงไหม ตัวเลขตรงกับในหนังสือหรือไม่ โดยมีปลัดเทศบาลและนิติกรมาทำการทำบันทึก โดยตนขอยืนยันว่านายเจริญไม่ได้มีอาชีพปล่อยเงินกู้แต่อย่างใด

โดยบุคคลแรกเป็นชายที่บอกว่ายืม 750,000 บาทนั้น เขาแจ้งว่าไม่จริง ทางตนก็ได้แจ้งว่าต้องบอกความจริงนะไม่งั้นจะติดไปจนวันตาย เขาก็ยืนยันว่าไม่จริง โดยเขาแจ้งว่ายืมผู้เสียชีวิตมา 34,000 บาท ยังไม่ใช้ ส่วนคนที่ 2 เป็นหญิงนั้น เขาแจ้งว่ายืมมา 40,000 บาท ใช้เงินสดไปแล้ว 30,000 บาท เหลืออีก 10,000 บาท เดี๋ยวจะใช้ให้ ส่วนคนที่ 3 เป็นหญิงบอกว่ายืม 30,000 บาท ทางตนได้ทำบันทึกว่าให้ทำการหักเงินเดือนทั้ง 3 คน โดยคนแรกจะผ่อนเดือนละ 2,500 บาท ซึ่งตัวเลขไม่ตรงกับความเป็นจริงจากที่มีการสอบสวนคนที่ 2 หักเดือนละ 2,000 บาท ส่วนคนที่ 3 หักเดือนละ 2,000 บาท ในขณะที่คนที่ 4 นั้น เขาไม่ได้ทำงานในเทศบาล เราไม่สามารถไปก้าวกายเขาได้ แต่เขาไปคุยตกลงกันกับทางญาติจนเป็นที่น่าพอใจแล้ว

ในส่วนที่ผู้เสียชีวิตนั้น มีการยืมเงินคนที่เทศบาลไป 80,000 บาท ซึ่งทางนายเจริญ ได้ใช้มาแล้ว 30,000 บาท ยังเหลืออีก 50,000 บาท ซึ่งผู้เสียชีวิตนั้นมีเงินบำนาญอยู่ 250,000 บาท ก็จะได้มีการหักกันไปตามที่ผู้เสียชีวิตนั้นร้องขอมาทุกอย่าง โดยเงินทั้งหมดที่มีการยืมเงินนายเจริญนั้น เป็นการยืมโดยมิตรภาพและเสน่หาส่วนตัว โดยไม่มีเอกสารการกู้ยืมเงิน ซึ่งตนก็ไม่ทราบ มาทราบอีกทีก็ตอนมาเห็นจดหมาย โดยนายเจริญนั้นไม่เคยโทรฯ มาหาตน หรือแม้กระทั่งมาทวงเงินที่เทศบาลก็ไม่เคยมา
ด้านพี่สาวของนายเจริญ กล่าวว่า น้องชายเป็นคนไม่ค่อยพูด ก่อนเกิดเหตุตนพยามสอบถามเขา จนเขาบอกว่ามีคนยืมเงิน ตนก็ถามว่าใคร เขาก็ไม่บอก เขาบอกเพียงว่าเป็นผู้ชายเท่านั้น ซึ่งพอมารู้ว่าน้องชายได้มายืมเงินคนในเทศบาล ก็ได้ดุเขาไปว่านำเงินไปให้เขายืม แล้วเขาไม่ใช้หนี้ แต่ลำบากไปยืมเงินคนอื่นมาใช้ ซึ่งเราก็สงสารเขาจึงได้บอกเขาไป โดยครอบครัวเรามีแต่คนชรา พอมีการทำอาหารก็จะกินกัน แต่เราจะใช้เงินกันเองในแต่ละคนจะไม่ยุ่งกัน โดยอุปนิสัยของนายเจริญนั้น จะเป็นคนเงียบ แต่พอไปทำงานจะคุยสนุกสนานกับเพื่อนร่วมงาน แต่พอกลับบ้านจะเป็นคนเงียบ โดยผู้ที่ยืมเงินน้องไปนั้นตนไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว เพิ่งจะมาเห็นตอนที่เขาเข้ามาคุยเท่านั้น ซึ่งตอนเกิดเหตุตนนอนอยู่ไม่รู้เรื่อง มีคนที่เทศบาลมาบอกที่บ้านว่าให้ตนทำใจดีๆ นะ พอรู้ข่าวตนก็รีบเดินทางไปที่ สภ.ลำลูกกา ทันที
ทั้งนี้ตนจะไปเรียกร้องอะไรต่อผู้ยืมนั้น ตนไม่มีหลักฐาน อีกทั้งทางนายกเทศมนตรีตำบลลำลูกกา เขามาช่วยไกล่เกลี่ยและเขาเป็นกลางในการเจรจา ซึ่งตนก็ไม่ติดใจในเรื่องนี้ เพราะว่ามันเป็นกรรมของเขา และถึงวาระของเขาแล้ว จะได้สบายใจกันทั้งสองฝ่าย ตอนนี้เราไม่รู้จะทำอะไรแล้ว เราเครียดไปหมด หลังเป็นข่าวเราไม่อยากจะให้ข่าว เพราะทางนั้นเขาคิดว่าเราเป็นคนสร้างข่าว ซึ่งเราไม่ได้ทำเลย ขนาดโซเชียลเรายังเล่นไม่เป็นเลย ซึ่งในตอนนี้เจอคนยืมทั้งหมด เขาก็ไม่ได้ขอโทษ เพราะว่านายกเป็นคนเคลียร์ให้ทั้งหมด ซึ่งเราโชคดีที่ได้นายกมาช่วยเจรจาให้.